“ชัยวุฒิ” ฝากครูพันธุ์ใหม่ ขอให้เป็นครูมืออาชีพ ปั้นเด็กให้เก่งวิชาการ คิดเป็น ทำเป็นแก้ปัญหาได้ ปลูกฝังประชาธิปไตย เคารพเสียงส่วนใหญ่ ซื่อสัตย์ ชี้จะมีรุ่นต่อไปหรือไม่ต้องดูผลเดือนหน้า
มหาวิทยาลัยรามคำแหง วันนี้ (25 มี.ค.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายการเป็นครูมืออาชีพรุ่นใหม่แก่นักศึกษาทุน ตามโครงการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับปริญญาตรี หลักสูตร 5 ปี ว่า ขณะนี้กำลังจะมีคนตกงานเป็นล้านคน แต่นักศึกษากว่า 2 พันคนโชคดีเป็นนักเรียนทุนครู 5 ปี เมื่อเรียนจบแล้วมีงานทำแน่นอนโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะมีตำแหน่งครูไว้รองรับ ซึ่งไม่ต้องมาสอบแข่งขัน และ ศธ. ฝากความหวังว่าทุกคนจะเป็นครูที่ดีเป็นเสาหลักในอนาคต
ครู เป็นหัวใจสำคัญของระบบการศึกษาของประเทศ นักเรียนจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของครูผู้สอน เพราะครูถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่จะสร้าง และพัฒนาผู้เรียน เป็นที่พึ่งของชุมชนสังคม ถ้าหากครูเป็นผู้ที่มีคุณภาพ มีศักยภาพสูง เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ สร้างความรู้ จะสามารถพัฒนานักเรียนเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข
สำหรับการผลิตครู 5 ปี ซึ่งเป็นรุ่นแรก เมื่อได้รับการบรรจุ ตนขอให้นำความรู้ที่ได้รับการบ่มเพาะตลอด 5 ปี มาถ่ายทอดให้แก่นักเรียนอย่างมีคุณภาพ โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ และทำอย่างไรให้นักเรียนคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาได้ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาความรู้ จัดกิจกรรมทักษะชีวิตเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ปลูกฝังประชาธิปไตย ให้เป็นคนมีเหตุมีผล ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ และจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนด้วย
“เมื่อได้บรรจุแล้ว อยากให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียน มีคุณธรรมจริยธรรม เมตตา กตัญญูซื่อสัตย์ ต่อวิชาชีพ ซึ่งสังคมไทยต้องการมาก และอย่าไปฟุ้งเฟ้อกับวัตถุนิยม ทั้งนี้ หากเก่งแต่ขาดคุณธรรม จะสร้างปัญหาให้กับสังคมได้ ขณะนี้เราต้องการครูมืออาชีพ มาสอนเด็ก”
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความรู้ความสามารถของเด็กไทยกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งเราฝากความหวังไว้ที่ครูพันธุ์ใหม่ ที่เรียนจบสาขาดังกล่าวประมาณ 1,500 คน มาช่วยยกระดับความรู้ความสามารถของนักเรียนในวิชาดังกล่าวให้มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมกันนี้ ศธ.เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องที่กำลังวิกฤตินี้จะเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ปัญหา
“แค่เด็กเขียน อ่าน ไทย ไม่คล่อง ก็เจ๊ง เขาตีโจทย์ไม่แตก ก็หาคำตอบไม่ได้ ดังนั้น ต้องเริ่มต้นที่ภาษาไทยให้แตกฉานเสียก่อน จะเรียนวิชาอะไรก็เข้าใจ ถ้าหากเด็กมีความรู้ภาษาอังกฤษจะใช้ประโยชน์จาก IT ในการค้นหาความรู้ได้เป็นอย่างดี จะช่วยให้เด็กมีความรู้มากกว่าชั้นเรียน และขอให้ปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นตำราเรียน อาจเป็นหนังสือการ์ตูน นิยายกำลังภายใน เป็นต้น” นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อีกสิ่งที่อยากให้ครู เน้นย้ำไปยังลูกศิษย์เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยในอินเทอร์เน็ต เพราะวันนี้เกิดภาษาวิบัติ ขอให้ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
ถามว่าจะมีครู 5 ปี รุ่นที่ 2 และรุ่น 3 หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องติดตามผลการสอนของครูรุ่นนี้ไป 2 ปี 3 ปี โดยดูผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน หากออกมาเป็นที่พอใจก็อาจจะมีรุ่นต่อไป เพราะฉะนั้นจะมีหรือไม่คงขึ้นอยู่กับรุ่นแรก อีกอย่างหนึ่งการศึกษา จะประเมินว่าดีหรือไม่นั้น คงไม่สามารถเห็นผลได้ภายใน 1 ปี 2 ปีหรอก กว่าจะเห็นจริงๆ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี 10 ปี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในปี 2554 จะมีอาจารย์ระดับศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ เกษียณอายุราชการเกือบหมด นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่อง ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ นั้น ทางมหาวิทยาลัยเขาจะมีเกณฑ์ของเขา ซึ่งเราไม่สามารถไปดูตรงนี้ ทำได้เพียงให้อาจารย์มหาวิทยาลัย มีวุฒิปริญญาโท ดอกเตอร์ สูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม สกอ.คงจะเสนอเรื่องนี้มาที่กระทรวง เพื่อเสนอ ครม.ต่อไป