นายกรัฐมนตรีเปิดงานต้นกล้าอาชีพ เดินหน้าแก้วิกฤตเศรษฐกิจชะลอเลิกจ้าง ยอมรับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจน่าวิตก ด้าน ก.แรงงานเตรียมจัดตั้งศูนย์เบ็ดเสร็จเป็นศูนย์กลางช่วยเหลือคนว่างงานแบบครบวงจร ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง และที่นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เตือนมีงานอยู่แล้วอย่าลาออกมาฝึกอบรมวิชาชีพโครงการต้นกล้าอาชีพหวังเงินค่าตอบแทนเพราะเป็นโครงการระยะสั้น 3 เดือนไม่ได้ช่วยเหลือตลอดไป
วันที่ 22 มีนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานต้นกล้าอาชีพ ที่อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อฝึกอบรมอาชีพระยะสั้นให้กับประชาชน เตรียมรับมือ หากต้องประสบปัญหากับวิกฤตเศรษฐกิจ เปิดโอกาสให้ลงทะเบียนทำการฝึกอาชีพ ซึ่งโครงการต้นกล้าอาชีพ จะเปิดรับสมัครทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 18 ถึง 24 มีนาคม ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1111
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ได้ส่งผลภายในประเทศ ประชาชนวิตกในเรื่องของการว่างงาน รัฐบาลขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะเข้าไปดูแลแก้ไขปัญหา ไม่ให้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจลุกลามไปมากกว่านี้ พร้อมจะชะลอการเลิกจ้างให้ได้มากที่สุด
“รัฐบาลพร้อมดูแลผู้ตกงานให้มีโอกาสทางสังคม และมีโอกาสที่จะฝึกอาชีพตามโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ที่จะยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลปัญหากับผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้านนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการว่างงานของประชาชน ว่า กระทรวงแรงงานเตรียมจัดตั้งศูนย์เบ็ดเสร็จการมีงานทำไว้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่งรวมทั้งภายในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางของการช่วยเหลือประชาชนที่ตกงาน ถูกเลิกจ้าง ไม่มีงานทำ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะสามารถอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ศูนย์ดังกล่าวได้มีงานทำ มีรายได้ ตั้งแต่การสำรวจตำแหน่งงานว่างของโรงงาน สถานประกอบการต่างๆ ทั่วประเทศที่ยังต้องการแรงงานและประชาชนเข้าไปทำงาน พร้อมกับให้บริการการฝึกอาชีพ ฝึกประสบการณ์ทางด้านการมีงานทำก่อนเข้าสู่การทำงานจริงด้วย
นายไพฑูรย์กล่าวอีกว่า ขอเตือนประชาชนผู้มีงานทำอยู่แล้วไม่ควรลาออกจากงาน เพื่อมาร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพที่ทางรัฐบาลเปิดรับสมัครอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ภาครัฐจัดขึ้นมาเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ว่างงานรวมทั้งนักเรียน นักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีงานทำอยู่ในขณะนี้ได้ฝึกประสบการณ์ทางด้านอาชีพ ก่อนเข้าทำงานในสถานประกอบการ ที่ทำงานจริง แม้โครงการต้นกล้าอาชีพที่รัฐบาลจัดทำขึ้นจะมีค่าตอบแทนให้กับผู้ฝึกอบรมคนละ 4,800 บาทต่อคนต่อเดือนก็ตาม ซึ่งอาจเป็นแรงจูงใจให้กับผู้มีงานทำอยู่แล้วอาจจะลาออกจากงานมาสมัครร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพ เพื่อหวังเงินค่าตอบแทนจากโครงการดังกล่าว แต่เงินที่ได้เป็นการช่วยเหลือของรัฐบาลเพียงระยะสั้น 3 เดือนเท่านั้น ไม่ใช่การช่วยเหลือตลอดไป