xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวิชัย” คัมแบ็ก ถึงเวลา...ดอกไม้จะบาน ที่องค์การเภสัชกรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานพิเศษ โดย...วรรณภา บูชา

ช่วงเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เสมือนตกอยู่ในภาวะที่ขาดหัวหน้าใหญ่ในการสั่งการบริหารจัดการองค์กร ทำให้การทำงานสะดุด ไม่ต่อเนื่อง งานบางเรื่องที่ควรจะเดินหน้าแต่ไม่ไปถึงไหน อย่างโรงงานผลิตวัคซีน หรือโรงงานผลิตยาต้านไวรัส ที่จำเป็นต้องให้บอร์ดเป็นผู้ตัดสินใจ
               
แต่ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ที่มี “บิ๊กแป๊ะ-ถิรชัย วุฒิธรรม” ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมชุดใหม่ จำนวน 11 คน โดยมี “นพ.วิชัย โชควิวัฒน” อดีตประธานกรรมการบอร์ดอภ.กลับมานั่งตำแหน่งเดิมอีกครั้งโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2552 เป็นต้นไป ดูเหมือนจะถึงยุคที่อภ.จะฟ้าเปิดอีกครั้ง      
นพ.วิชัย โชควิวัฒน
หากเล่าย้อนถึงเหตุชุลมุนภายใน อภ. คงต้องย้อนกลับไปในยุคที่ “เสี่ยอ้อน-ไชยา สะสมทรัพย์” นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเสนอครม.ให้แต่งตั้งประธานและคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมชุดใหม่โดยมีนายถิรชัยเป็นประธาน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 แทน นพ.วิชัยที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาในยุคที่ “นพ.มงคล ณ สงขลา” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ทันทีที่ ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ “เสี่ยอ้อน” เสนอ กระแสวิพากษ์วิจารณ์จากเอ็นจีโอ ภาคประชาชน หรือแม้แต่สหภาพองค์การเภสัชก็ดังขรมขึ้นมาทันที เพราะเห็นถึงความไม่เหมาะสมในเรื่องของความสามารถและคุณสมบัติ

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดที่มี “บิ๊กแป๊ะ” เป็นประธานทำงานได้เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ก็มีอันต้องระเห็จออกจากเก้าอี้หลังจากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวบอร์ดชุดนพ.วิชัยให้ทำงานต่อแม้จะเหลือคณะกรรมการบอร์ดเพียง 8 คนก็ตาม

ทว่า ทอดเวลาออกไปไม่นานนักคือในวันที่ 29 ธันวาคม ศาลปกครองสูงสุดก็มีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งทุเลาของศาลปกครองกลางที่ นพ.วิชัยและกรรมการ อภ.อีก 4 คน ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นผลให้นายถิรชัย กลับเข้ามาทำงานใหม่อีกรอบและบอร์ดชุดนพ.วิชัยต้องพ้นจากตำแหน่งโดยทันที
นายถิรชัย วุฒิธรรม
กระนั้นการที่นายถิรชัยกลับมานั่งประธานบอร์ด อภ.อีกครั้งก็ดูเหมือนจะไม่เป็นที่รับรู้ของสังคมมากนัก เพราะเวลาแค่ 1 เดือนที่ดำรงตำแหน่งไม่มีชื่อของนายถิรชัยปรากฏออกมาตามสื่อต่างๆ ในการทำงานบนเก้าอี้ตัวนี้ หรือสรุปง่ายๆ ก็คือยังไม่ทันที่จะได้ทำงานอะไรเลย

และในที่สุด เมื่อเปลี่ยนขั้วการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล “นายวิทยา แก้วภราดัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็เสนอให้ครม.แต่งตั้งประธานบอร์ดอภ.คนใหม่ พร้อมทั้งปลดนายถิรชัยออกจากแหน่ง ส่งผลให้นพ.วิชัยนั่งเก้าอี้ตัวนี้เป็นครั้งที่ 3

นพ.วิชัย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ได้กลับเข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ดอภ.ว่า ก่อนหน้านี้นายวิทยา ได้เคยพูดคุยกันและบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า จะขอให้เข้าไปช่วยทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้เร่งรัดหรือถามไปยังนายวิทยา เพราะคิดว่าแล้วแต่เหตุสมควร จังหวะและเวลา ซึ่งเมื่อรัฐมนตรีมอบความไว้วางใจก็จะทำงานให้เต็มที่ ซึ่งหลังจากเรื่องนี้จะเข้าครม.แล้วนายวิทยาก็พูดเพียง “ขอให้ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด”

ทันทีที่ครม.มีมติออกมา นพ.วิชัยก็เริ่มลุยงานทันที โดยได้นัดประชุมคณะกรรมการบอร์ดอภ.ชุดใหม่เป็นครั้งแรกในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการพบปะทำความรู้จักสนิทสนมคุ้นเคยมากขึ้นแล้ว จะมีการหารือการตั้งคณะกรรมการเฉพาะเรื่องที่จำเป็นต้องมีการกลั่นกรองและตั้งทีมทำงานด้านต่างๆ เช่น คณะกรรมการการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งบางเรื่องเกินขอบเขตอำนาจของผอ.องค์การเภสัชกรรม

“สำหรับนโยบายการดำเนินงาน ผมจะเน้นการทำหน้าที่เป็นรัฐวิสาหกิจที่ดี ทั้งการจัดหายาที่มีคุณภาพ ควบคุมดูแลการจำหน่ายยาในราคาที่เหมาะสมมีความเป็นธรรม มีการกระจายยาอย่างเหมาะสม รวมถึงการเตรียมวัคซีน การสำรองยาฉุกเฉินต่างๆ เพื่อป้องกันโรคระบาด การเกิดภัยพิบัติต่างๆ และเป็นผู้ผลิตยากำพร้าเพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสเข้าถึงยามาขึ้น พร้อมปรับโฉมใหม่อภ.ให้เป็นหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพทำในการปฏิบัติตามภารกิจการเป็นรัฐวิสาหกิจที่ดี ช่วยให้ประชาชนในประเทศสามารถเข้าถึงยา โดยไม่มุ่งหวังกำไร พร้อมกับพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันกับบุคคลอื่นด้วย”

ขณะที่นายถิรชัย ก็ยอมรับโดยดุษฎีว่า “ทุกอย่างถูกต้อง เหมาะสมแล้ว เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งต่อไปงานของอภ.ก็จะได้เดินหน้า ผมไม่ได้ติดใจและไม่เคยคิดมากเรื่องนี้เลย”
กำลังโหลดความคิดเห็น