กรมศิลป์หวั่นเหตุลักลอบศิลปวัตถุผิด กม.สั่งคุมเข้มพ่อค้าส่งออก

กรมศิลป์ ตรวจเข้ม 100 ร้านค้าขายศิลปวัตถุ กันผู้ลักลอบนำของแท้ออกนอกประเทศแบบผิด กม. นักโบราณคดีชี้เหตุคนอยากรวยทางลัด-ขาดจิตสำนึก

นางอมรา ศรีสุชาติ ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรมศิลปากร กล่าวถึงการเฝ้าระวังการลักลอบขนวัตถุโบราณออกนอกประเทศว่า ผู้ลักลอบกระทำ 2 เส้นทางหลัก คือ ขนส่งทางเครื่องบิน-สนามบิน เช่น ในกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ และทางเรือสินค้าท่าเรือคลองเตย ซึ่งกรมศุลกากรทำหน้าที่ตรวจสอบและหากสงสัยวัตถุโบราณชิ้นนั้นว่าเป็นของจริงหรือไม่ จะแจ้งมาที่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ภัณฑารักษ์ไปตรวจสอบ ส่วนสนามบินภูมิภาค เช่น จ.ภูเก็ต มีสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต จ.เชียงใหม่ มีสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ดำเนินการตรวจสอบ สำหรับร้านขายเครื่องศิลปวัตถุที่ได้รับการอนุญาตทำเลียนแบบประมาณ 100 ร้านค้า ถ้าหากพบการลักลอบขนวัตถุโบราณของจริงออกนอกราชอาณาจักรไทย จะมีโทษปรับและจำคุก ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 22 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท

ด้าน นายพิเศษ เจียจันทร์พงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบขนวัตถุโบราณ สาเหตุหนึ่งเกิดจากการตีมูลค่าศิลปวัตถุเป็นเงิน และใบสั่งจากพ่อค้าวัตถุโบราณ ทำให้คนในท้องถิ่นอยากรวยทางลัด ส่งผลให้เกิดการลักลอบวัตถุโบราณตามแหล่งโบราณสถานสำคัญทั้งของไทยและเพื่อนบ้าน แต่ปัจจุบันของไทยน้อยลง เนื่องจากสื่อได้นำเสนอให้เห็นถึงความสำคัญคุณค่าของโบราณสถาน ศิลปวัตถุ และกรมศิลปากรได้สร้างองค์ความรู้สร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชน ด้วยการสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ปกป้องมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่น รวมทั้งกระจายอำนาจไปยังหน่วยงานปกครองท้องถิ่นช่วยกันดูแลรักษา