ยูเนสโก หารือ วธ.ขอตั้งศูนย์เทรนนิงโบราณคดีใต้น้ำไทย พาณิชย์จันทบุรี แทนประเทศศรีลังกาที่ตั้งเดิม เหตุเกรงไม่ปลอดภัย ด้านกรมศิลป์รับลูกเร่งจัดทำแผนแม่บทรองรับปี 53-54
วันนี้ (3 มี.ค.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า นายควาง โจ คิม ผู้อำนวยการยูเนสโก สำนักงานกรุงเทพ ได้เข้าหารือเรื่องการจัดตั้งศูนย์เทรนนิงโบราณคดีใต้น้ำ เนื่องจากศูนย์เทรนนิ่งดังกล่าวได้จัดตั้งในประเทศศรีลังกาแต่เนื่องจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางด้านสันติภาพและสังคมในประเทศ ทำให้ยูเนสโกไม่มั่นใจในความปลอดภัยในการสำรวจโบราณคดีใต้น้ำ จึงมีความจำเป็นที่ต้องย้ายที่ตั้งโครงการระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเห็นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในด้านโบราณคดีใต้น้ำทันสมัยในภูมิภาคอาเซียน จึงขอดำเนินการจัดตั้ง โดยจะใช้สถานที่กลุ่มโบราณคดีใต้น้ำพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จังหวัดจันทบุรี
ทั้งนี้ ยูเนสโก จะให้การดูแลโครงการกับหน่วยงานที่ประสานเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน โดยมีรัฐบาลนอร์เวย์ให้การสนับสนุนในการจัดฝึกอบรม จัดหาวัสดุอุปกรณ์ และการจัดตั้งศูนย์ ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญามรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำ
นายธีระ กล่าวต่อว่า การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว ทางกรมศิลปากรได้ให้ความเห็นชอบ เพราะเห็นว่า จะทำให้งานวิชาการทางด้านโบราณคดีใต้น้ำมีการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะพื้นที่เขตไมล์ทะเลด้านตะวันออกไทย กัมพูชา และภาคใต้ที่มีพื้นที่ทางทะเลติดมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย จะทำให้มีความสัมพันธ์กันมากขึ้น และยังจะเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโบราณคดีใต้น้ำด้านอ่าวไทย ซึ่งเป็นเส้นทางอารยธรรมเดินเรือ การค้าพาณิชย์นาวีสมัยโบราณ
ทั้งนี้ ได้ให้ยูเนสโก กำหนดกรอบการจัดตั้งศูนย์เทรนนิ่งดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อสอดรับกับการจัดทำแผนแม่บทโบราณคดีใต้น้ำ ของกรมศิลปากร ซึ่งขณะนี้กำลังจัดสร้างเรือไว้สำรวจแหล่งเรือโบราณที่จมใต้น้ำ โดยคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ และจะมีการจัดทำงบประมาณปี 2553-2554 รองรับกับศูนย์เทรนนิงดังกล่าว