สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ หวัง สศช.ไฟเขียวงบอบรมนาฏศิลป์-ดนตรี-ช่างศิลป์ 121 ล้านบาท สร้างอาชีพผู้ว่างงาน 9,000 คน
นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลและ วธ.มีนโยบายส่งเสริมให้นำมิติทางวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน และบัณฑิตที่ยังไม่มีงานทำ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้สถาบันพัฒนศิลป์ ได้จัดทำ “โครงการอบรมนาฏศิลป์ ดนตรี คีตศิลป์ และช่างศิลป์ สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ บัณฑิตว่างงาน และบุคคลทั่วไปให้มีงานทำและเสริมสร้างรายได้” เสนอต่อ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม เพื่อนำเสนอโครงการดังกล่าวต่อรัฐบาลแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการอนุมัติงบประมาณตามที่สถาบันได้เสนอขอไปประมาณ 121 ล้านบาท
นายกมล กล่าวต่อไปว่า เมื่อสภาพัฒน์เห็นชอบตามที่สถาบันฯ เสนอ ตนก็จะสั่งการให้สถานศึกษาในสังกัด 18 แห่งทั่วประเทศ อาทิ วิทยาลัยนาฏศิลป จ.นครปฐม วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ นครศรีธรรมราช อ่างทอง จันทบุรี กาฬสินธุ์ พัทลุง ดำเนินการอบรมความรู้และทักษะให้แก่ผู้ว่างงานด้วยกัน 3 หลักสูตร ได้แก่ 1.นาฏศิลป์ แบ่งเป็น นาฏศิลป์ไทย-สากล นาฏศิลป์พื้นบ้าน เทคนิคการแต่งหน้าผู้แสดง การแต่งกายผู้แสดง การสร้างชุดการแสดงโขน-ละคร การสร้างหัวโขน ละคร การเขียนบทโขน ละคร 2.ดนตรี/คีตศิลป์ แบ่งเป็น ดนตรีไทย-สากล-พื้นบ้าน ขับร้องเพลงไทย-สากล –พื้นบ้าน การซ่อมเครื่องดนตรีไทย การประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบดนตรีไทย 3.ช่างศิลป์ แบ่งเป็น จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ เครื่องเคลือบดินเผา ลายรดน้ำ ออกแบบผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก จิตรกรรมไทยแบบประเพณี การเขียนลายเบญจรงค์
“สถาบันตั้งเป้าหมาย จะอบรมความรู้ให้แก่ผู้ว่างงานให้ได้ จำนวน 9,000 คน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพัฒน์ด้วยว่า จะเห็นชอบงบประมาณตามที่สถาบันนำเสนอหรือไม่ ทั้งนี้ ผมคิดว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยให้บัณฑิตและประชาชนที่ตกงานมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น เพราะสถาบันจะแนะรายชื่อสถานประกอบการให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ใช้เป็นแนวทางสมัครงานด้วย” อธ.สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าว
นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลและ วธ.มีนโยบายส่งเสริมให้นำมิติทางวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน และบัณฑิตที่ยังไม่มีงานทำ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้สถาบันพัฒนศิลป์ ได้จัดทำ “โครงการอบรมนาฏศิลป์ ดนตรี คีตศิลป์ และช่างศิลป์ สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ บัณฑิตว่างงาน และบุคคลทั่วไปให้มีงานทำและเสริมสร้างรายได้” เสนอต่อ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม เพื่อนำเสนอโครงการดังกล่าวต่อรัฐบาลแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการอนุมัติงบประมาณตามที่สถาบันได้เสนอขอไปประมาณ 121 ล้านบาท
นายกมล กล่าวต่อไปว่า เมื่อสภาพัฒน์เห็นชอบตามที่สถาบันฯ เสนอ ตนก็จะสั่งการให้สถานศึกษาในสังกัด 18 แห่งทั่วประเทศ อาทิ วิทยาลัยนาฏศิลป จ.นครปฐม วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ นครศรีธรรมราช อ่างทอง จันทบุรี กาฬสินธุ์ พัทลุง ดำเนินการอบรมความรู้และทักษะให้แก่ผู้ว่างงานด้วยกัน 3 หลักสูตร ได้แก่ 1.นาฏศิลป์ แบ่งเป็น นาฏศิลป์ไทย-สากล นาฏศิลป์พื้นบ้าน เทคนิคการแต่งหน้าผู้แสดง การแต่งกายผู้แสดง การสร้างชุดการแสดงโขน-ละคร การสร้างหัวโขน ละคร การเขียนบทโขน ละคร 2.ดนตรี/คีตศิลป์ แบ่งเป็น ดนตรีไทย-สากล-พื้นบ้าน ขับร้องเพลงไทย-สากล –พื้นบ้าน การซ่อมเครื่องดนตรีไทย การประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบดนตรีไทย 3.ช่างศิลป์ แบ่งเป็น จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ เครื่องเคลือบดินเผา ลายรดน้ำ ออกแบบผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก จิตรกรรมไทยแบบประเพณี การเขียนลายเบญจรงค์
“สถาบันตั้งเป้าหมาย จะอบรมความรู้ให้แก่ผู้ว่างงานให้ได้ จำนวน 9,000 คน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพัฒน์ด้วยว่า จะเห็นชอบงบประมาณตามที่สถาบันนำเสนอหรือไม่ ทั้งนี้ ผมคิดว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยให้บัณฑิตและประชาชนที่ตกงานมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น เพราะสถาบันจะแนะรายชื่อสถานประกอบการให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ใช้เป็นแนวทางสมัครงานด้วย” อธ.สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าว
