“จุรินทร์” มอบผู้ตรวจราชการ ศธ.ดูแลปัญหานมโรงเรียนในพื้นที่ของตนเอง พร้อมเปิดรับร้องเรียนผ่านสายด่วน ศธ.ด้าน “สุธรรม” ยืนยันไม่มีวาระซ่อนเร้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ หรือต้องการดึงเรื่องกลับมาให้ ศธ.จัดซื้อจัดจ้างอย่างแน่นอน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงปัญหาทุจริตนมโรงเรียน ว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ ศธ.ที่รับผิดชอบของแต่ละเขตพื้นที่เข้าไปดูและแก้ปัญหาว่ามีโรงเรียนใดมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงเรียนไม่ได้รับนม หรือนมโรงเรียนไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น ขณะเดียวกัน ก็เปิดให้มีการร้องเรียนเข้ามายังสายด่วน ศธ.1579 โดยสำนักงานปลัด ศธ.จะเป็นผู้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลร้องเรียนดังกล่าว ส่วนเรื่องนมที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขจะต้องดำเนินการ เพราะมีกฎหมายลงโทษอยู่แล้ว และเรื่องที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่า มี 5 บริษัทยักษ์ใหญ่เข้าไปจำหน่ายนมโรงเรียน แต่หลีกเลี่ยงภาษีนั้น คิดว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงคงจะเข้าไปดูว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ศธ.จะเข้าไปดูเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเท่านั้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบนมโรงเรียนในบางพื้นที่ ซึ่งหากที่ไหนไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ อย.กำหนด อย.ก็มีกฎหมายลงโทษอยู่แล้ว ส่วน ศธ.จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลและจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแต่ละส่วนคงจะตระหนักและเคร่งครัดในการดำเนินการมากขึ้น รวมถึงโรงเรียนจะต้องระมัดระวังในเรื่องการตรวจรับนมด้วย ว่า นมที่รับมามีคุณภาพหรือไม่ ส่วนกรณีคณะกรรมการตรวจรับต้องรับผิดชอบการรับนมที่ไม่มีคุณภาพให้เด็กดื่มนั้น เรื่องนี้ตนไม่สามารถตอบได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องรอผู้ตรวจราชการ ศธ.สรุปรายงานทั้งหมดมาให้ทราบก่อน
ต่อข้อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้กระทรวงพาณิชย์ จับมือกับกระทรวงมหาดไทย เพราะขณะนี้มีปัญหาในเรื่องการล็อกสเปก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้กระทรวงมหาดไทย ก็ได้เข้ามาดูแล้ว ไม่ได้ปล่อยปละละเลย เพราะทราบว่ากำลังเตรียมการที่จะพูดคุยกับหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ ส่วน ศธ.ก็จะทยอยส่งข้อมูลให้ทราบเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละกระทรวงก็มีขอบเขตความรับผิดชอบของตัวเอง และในที่สุดก็จะนำไปสู่เป้าหมายที่จะทำให้เด็กได้ดื่มนมที่มีคุณภาพมากขึ้น และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลซึ่งปีการศึกษา 2552 เทอม 2 ประมาณเดือนตุลาคมก็จะขยายให้ป.5-6 ได้ดื่มนม จากเดิมให้ดื่มนมตั้งแต่ระดับอนุบาล-ป.4
ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดเผยข้อมูลเรื่องนมโรงเรียนครั้งนี้ อาจผลประโยชน์แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง นายสุธรรม นทีทอง เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ยืนยันว่า การเปิดเผยข้อมูล เนื่องจากมีประชาชนมาร้องเรียน และตนต้องการให้เด็กนักเรียนได้รับนมที่มีคุณภาพ ไม่มีเจตนาที่จะแสวงหาผลประโยชน์หรือมีวาระซ่อนเร้น เพื่อดึงเรื่องนมโรงเรียนกลับมาให้ ศธ.เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง