xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมะไฮเทคฟังเพลงสวดผ่านแผ่น เพี้ยนจากแก่นพุทธศาสนาหรือไม่?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซีดีเพลงสวดบทและภาษาต่างๆ ที่มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายในท้องตลาด
     พุทธศาสนิกชนหลายๆ คน คงเคยได้ยินบทสวดมนต์ หรือคาถาต่างๆ ที่นำมาใส่ท่วงทำนอง มีเครื่องดนตรีบรรเลงเป็นจังหวะ เปิดผ่านเครื่องเล่นซีดี หรือเทปคาสเซตให้ได้ยินได้ฟังกันอย่างแพร่หลาย มีทั้งที่ทางวัดเป็นผู้เปิดให้ญาติโยมได้รับฟัง และอีกหลายๆ คนซื้อหาเพลงสวด หรือคาถาพุทธคุณต่างๆ มาเปิดฟังเองที่บ้าน

       ในครั้งพระพุทธกาล ข้อปฏิบัติในพระพุทธศาสนาอาจจะไม่ได้กล่าวถึงการฟังเพลงสวดที่แพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน หลายคนยังคลางแคลงใจ การเปิดเพลงสวดฟังในบ้าน หรือระหว่างทำกิจวัตรอื่นๆ ไปด้วยนั้น ตามหลักศาสนาแล้วพึงกระทำได้หรือไม่ และการฟังเพลงสวดก่อให้เกิดเนื้อนาบุญใด

      พระมหาวุฒิชัย วชิระเมธี หรือ ที่พุทธศาสนิกชนคุ้นเคยในนามของท่านว่า “ว.วชิระเมธี” วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ให้ความกระจ่างแก่ญาติโยมว่า การเปิดบทสวดมนต์ หรือเพลงสวดต่างๆ ฟังนั้น เป็นกิจที่พุทธศาสนิกชนกระทำได้ ไม่ขัดต่อหลักคำสอนของพระพุทธองค์ เพราะบทสวดหรือคาถาต่างๆ ถือเป็นพุทธมนต์ หรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แม้บทสวดจะเป็นภาษาที่ไม่เข้าใจผู้ฟังก็ได้บุญ

“แต่หากฟังแล้วเข้าใจเราก็เกิดปัญญา เมื่อเราฟังเข้าใจและปฏิบัติตาม ถือเป็นการเจริญมงคล ฝึกจิตใจตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเช่นนี้ ย่อมได้บุญและเกิดปัญญา ดังนั้น หากจะฟังบทสวดให้ได้บุญและเกิดปัญญาก็ควรหาบทสวดที่มีคำแปลมาฟัง เพราะไหนๆ เราก็ได้ฟังแล้ว ก็ควรขยับการฟังของเราให้เกิดเป็นกุศล เกิดเป็นความเข้าใจในธรรมะ เข้าใจโลก จิตใจเบิกบาน ซึ่งการสวดมนต์ก็เป็นช่องทางหนึ่งของการสร้างกุศลผลบุญ”

ท่าน ว.วชิระเมธี ยังบอกด้วยว่า พุทธศาสนิกชน อาจมองว่า การเปิดเพลงสวดไว้ พร้อมกับทำสิ่งอื่นๆ ไปด้วยนั้น จะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่หากเทียบกับการฟังเพลงประโลมโลกที่อาจทำให้จิตใจเร่าร้อน ทุรนทุราย จมอยู่กับความหลังแล้ว การฟังเสียงสวดมนต์ถือว่าดีกว่ามาก เพียงแต่หากต้องการทำให้จิตใจผ่องแผ้วจริงๆ ก็ต้องเติมความใส่ใจและเข้าใจความหมายของบทสวด ซี่งหากนำบทสวดมนต์มาเปิดให้เด็กเล็กฟังก็จะทำให้เด็กๆ คุ้นชินกับบทสวดมนต์ โดยพ่อแม่ผู้ปกครองควรชักนำให้เด็กได้สวดมนต์ตามไปด้วย เพื่อฝึกให้จิตใจเด็กให้สงบ และมีสมาธิ
ว.วชิระเมธี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
“แผ่นบันทึกเสียงเพลงสวด หรือเทปคาสเซต ที่ทำออกมาจำหน่ายนั้น หากมุ่งในเชิงพาณิชย์มากเกินไป ค้ากำไรเกินควร ก็จะไม่ส่งผลบุญต่อผู้จำหน่าย เพราะถือว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบ แต่หากมีการทำสำเนาแจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชนนำไปใช้ ผู้กระทำก็จะได้บุญไปด้วย เพราะการส่งเสริม สนับสนุนให้คนได้ฟังพุทธมนต์ถือเป็นการทำกุศลประการหนึ่งเช่นกัน”

ด้าน นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์ อธิบายตามหลักทางการแพทย์ ว่า ในทางวิทยาศาสตร์มีผลวิจัย ที่ยืนยันว่า การเปิดเพลงที่มีความถี่หรือทำนองเท่ากับคลื่นสมองจะส่งผลดีต่อผู้ฟัง เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งบทสวดต่างๆ ที่มีออกมาจำหน่ายนั้น โทนของเสียงส่วนใหญ่จะเป็นท่วงทำนองสบายๆ ไม่ใช่จังหวะเร็วๆ การนำมาเปิดฟังจึงช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย หรือหากนำมาเปิดฟังพร้อมสวดไปด้วย ก็จะทำให้เกิดสมาธิ เพราะผู้ฟังได้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และในทางตรงกันข้าม หากเราฟังเพลงที่มีจังหวะเร็ว เสียงกระแทกกระทั้น เช่น เพลงร็อก ก็จะทำให้รู้สึกแอคทีฟมากเกินไป เพราะมีเสียงมากระตุ้น เร้าทำให้ไม่ผ่อนคลาย

“การเปิดบทสวดมนต์ฟังส่งผลดีต่ออารมณ์และจิตใจอย่างมาก แต่ถ้าเป็นเทปบรรยายธรรมะก็อาจจะต้องดูที่เนื้อหาด้วย หากเป็นการบรรยายธรรมของพระที่ถูกต้อง ไม่ใช่ลักษณะร่างทรง หรือมีการบิดเบือนคำสอนทำให้ผู้ฟังงมงายก็ไม่น่าเป็นห่วง ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อจิตใจ”

อย่างไรก็ตาม นพ.กัมปนาท ฝากเตือนว่า แม้การฟังบทสวดมนต์จะส่งผลดี แต่ก็ขอให้ระมัดระวังในกรณีที่ต้องทำงานใช้สมาธิ เช่น ขับรถ หรืออยู่ใกล้เครื่องจักร เพราะหากเปิดบทสวดมนต์ฟังจนเพลิดเพลินอาจจะขาดสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่และเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

คุณหมอ ยังแนะนำอีกว่า หากจะทำให้จิตใจสงบ ปลอดโปร่ง ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ควรหาช่วงเวลาสงบ หรือก่อนเข้านอนสักประมาณ 5-10 นาที ฟังพร้อมกับสวดมนต์ไปกับเทป เป็นการผ่อนคลายและทำสมาธิให้จิตใจสงบ ซึ่งช่วยลดความเครียดสะสมในแต่ละวัน ซึ่งการปฏิบัติก่อนนอนจะทำให้หลับสนิท เพราะจิตใจให้ปลอดโปร่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น