ชาวบ้านเขตจอมทอง ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.ค้านสร้างถนน ง.3 เชื่อมสุขสวัสดิ์ ไปวงแหวนรอบนอก เหตุถูกเวนคืนที่แถมชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ด้าน ส.ก.เจ้าของพื้นที่ส่งหนังสือถึงชาวบ้านแจ้งผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ เตรียมไปทำความเข้าใจพรุ่งนี้
วันนี้ (18 ก.พ.) ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากเขตจอมทอง ประมาณ 100 คน ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนตามแนวผังเมือง ง.3 เชื่อมถนนสุขสวัสดิ์-พระรามที่ 2-ถนนสามแยกตากสิน-ถนนเพชรเกษม-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ เดินทางมายื่นหนังสือให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขอให้ยกเลิกและทบทวนโครงการก่อสร้างถนนตามแนวผังเมือง ง.3 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน จึงอยากขอให้ทางผู้ว่าฯ กทม.ยกเลิกโครงการ และให้ไปสร้างรถไฟฟ้าแทนดีกว่า เพราะชาวบ้านไม่มีใครรับทราบข้อมูลโครงการเลย ที่ผ่านมา กทม.งุบงิบจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มย่อยๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ แพทย์หญิง มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.ได้เป็นตัวแทนมารับหนังสือร้องเรียนแทน ซึ่งทางผู้บริหารขอดูรายละเอียดก่อนถึงจะให้คำตอบกับชาวบ้านได้
ด้าน นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทรและ นายพิรกร วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตจอมทอง ได้ทำหนังสือถึงชาวบ้านเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน โดยในรายละเอียดของหนังสือ ระบุว่า มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างว่าสามารถระงับโครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวได้ โดยมีการเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านตั้งแต่บ้านละ 1,000-5,000 บาท ซึ่งในข้อเท็จจริงบุคคลดังกล่าวมิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่สามารถระงับ หรือยับยั้งโครงการได้ เพียงแต่ต้องการหาประโยชน์ใส่ตัว และหลอกลวงพี่น้องชาวจอมทองที่ได้รับผลกระทบแค่นั้น พร้อมระบุว่า ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 17.00 น.ผู้ว่าฯ กทม.จะไปพบชาวจอมทองเพื่อทบทวนและยกเลิกโครงการดังกล่าวที่สำนักงานเขตจอมทอง
สำหรับโครงการถนน ง.3 ในเบื้องต้นจากผลการศึกษาแนวเส้นทางโครงการแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1สุขสวัสดิ์-พระรามที่ 2-เพชรเกษม ระยะทาง 15 กม.ช่วงที่ 2 แยกจุดตัดกับถนนสาย ง.3-กาญจนาพิเศษ (ด้านใต้) ระยะทาง 4-5 กม.รวมระยะทาง 20 กม.ตัดผ่านพื้นที่ 5 เขต ได้แก่ ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ จอมทอง บางขุนเทียน ภาษีเจริญ มีหมู่บ้านที่อยู่ในแนวเส้นทางประมาณ 20 หมู่บ้าน ชุมชนดั้งเดิมอีก 5 ชุมชน ผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวประมาณ 900 หลัง และอยู่ในเขตถนนในเมือง คาดว่า จะใช้ค่าก่อสร้างและเวนคืนประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท เป็นถนนขนาด 4-6 ช่องจราจร
จากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่รัฐสภา โดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนไว้
