เกย์การเมืองโวยอีก สภากาชาดไทย ไม่รับเลือด แถมพูดดูถูก อ้างว่าทำบุญได้บาป เตรียมยื่นหนังสือสอบถาม ผอ.ศูนย์บริการโลหิต วันที่ 17 ก.พ.นี้ ถามทำไมต้องกีดกัน ยันจะต่อสู้จนถึงที่สุด
นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ ตนได้รับแจ้งจากเกย์ ชื่อ แฟรงค์ อายุ 26 ปี และ นัท เป็นกะเทย อายุ 24 ปี โทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนผ่านสายด่วนกุลเกย์ ว่า
ได้ไปบริจาคโลหิตเนื่องในวันแห่งความรัก ที่อาคารมาลีนนท์ เพราะต้องการที่จะทำบุญ ปรากฏว่า เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธที่จะรับบริจาคโลหิต โดยระบุว่า ไม่สามารถที่จะรับเลือดบริจาคจากกลุ่มคนรักร่วมเพศได้ เพราะเกรงว่าจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ โดยเฉพาะโรคเอดส์ และล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา มีกะเทย ชื่อ เบิร์ด อายุ 23 ปี ไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย ก็ถูกปฏิเสธ โดยเจ้าหน้าที่ใช้ถ้อยคำส่อเสียด ว่า เจตนามาทำบุญดีแล้ว แต่อย่าให้การทำบุญเป็นการทำบาปเลย เพราะถ้าเชื้อที่อยู่ในตัวคุณไปติดคนไข้คนอื่นจะทำอย่างไร
“เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่สังคมไทย ยังคงล้าหลัง ดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นนี้ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ ทางกลุ่มเกย์การเมืองไทย กลุ่มฟ้าสีรุ้ง และองค์กรที่ทำงานในกลุ่มคนเพศที่สาม ได้เคยเคลื่อนไหวโดยยื่นหนังสือถึง ผอ.ศูนย์บริจาคโลหิต สภากาชาดไทย มาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ให้ตัดข้อสอบถามข้อ 12 ของแบบฟอร์มการบริจาคเลือด ที่ระบุว่า ท่าน หรือคู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันใช่หรือไม่ ซึ่งจนถึงขณะนี้
นอกจากจะไม่มีการตัดข้อคำถามดังกล่าวออกแล้ว ยังมีการเพิ่มข้อความอีกว่า ท่านหรือคู่ของท่านทั้งชายและหญิงมีเพศสัมพันธ์กับเพศชายด้วยกันใช่หรือไม่ ซึ่งก็ยิ่งเป็นการกีดกันและดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างมาก” นายนที กล่าว
นายนที กล่าวอีกว่า ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น.จะเดินทาไปยื่นหนังสือต่อ พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย อีกครั้ง เพื่อถามถึงสาเหตุในการกีดกันและดูถูกเหยียดหยามกลุ่มคนรักเพศเดียวกันเช่นนี้ ซึ่งแบบสอบถามควรระบุให้ชัดเจน โดยเพิ่มข้อความว่า ท่านหรือคู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงกับเพศเดียวกันหรือไม่ จะได้แยกออกไปเลยว่า มีพฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยง เพราะไม่ว่าผู้ชายกับผู้ชาย ผู้หญิงกับผู้หญิง หรือแม้แต่ผู้ชายกับผู้หญิงถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบเสี่ยง ก็เสี่ยงเหมือนกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์หรอก
ซึ่งหากมีการเจรจากับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไข ทางกลุ่มคงต้องหารือกันว่า จะเคลื่อนไหวอย่างไร ถ้าถึงขั้นต้องฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ก็อาจต้องทำ เพราะการกระทำดังกล่าว ถือว่า ขัดกับมาตรา 30 ที่ห้ามเลือกปฏิบัติ เพราะเหตุแห่งเพศ และตนยืนยันว่าจะต่อสู้ในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
