ปลัด กทม.มอบสำนักงบฯ รวบรวมข้อมูลแจง กมธ.ป.ป.ช.หลังมีกระแสข่าวแอบเม้มงบให้ ส.ก. ด้านรองปลัด “นินนาท” ระบุอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะหลังมี รธน.ปี 50 ก็ไม่มีงบแปรญัตติสำหรับ ส.ก.แล้ว
จากกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับขบวนการเบียดบังงบประมาณของ กทม.เพื่อเข้ากระเป๋า ส.ก. หรือเรียกว่า งบฯ ส.ก.โดยเป็นการกันงบฯ กลางของผู้ว่าฯ กทม.เอาไว้ให้กับ ส.ก.ทั้ง 56 คน คนละ 30 ล้านบาท รวมเป็นเงินถึง 1,680 ล้านบาท ซึ่งอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 และได้ทำหนังสือขอเอกสารจากทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัด กทม. และสำนักงบประมาณ ช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งบประมาณก่อนที่จะส่งให้กรรมาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งเท่าที่ตนทราบมีการร้องขอเอกสารมา 6-7 เรื่อง แต่จำไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ส่วนเรื่องที่ กมธ.ป.ป.ช.ตั้งท่าจะสอบงบฯ ส.ก.นั้นไม่เกี่ยวกับการที่นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองปลัด กทม.ยื่นใบลาออกแต่อย่างใด
ด้าน นางนินนาท กล่าวว่า เนื่องจากจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ จึงขอเวลาในการรวบรวมข้อมูลเป็นเวลา 30 วัน โดยเรื่องที่ กมธ.ป.ป.ช.ร้องขอเอกสารมา เช่น การซื้อสื่อการเรียนการสอน การจัดซื้อถังดับเพลิง การจัดซื้อแว่นตา และโครงการสัมมนา เป็นต้น ส่วนที่มีการระบุถึงการใช้งบฯ ส.ก.นั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะหลังจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุห้ามใช้งบแปรญัตติ ส.ก.ตั้งแต่นั้นมางบที่ ส.ก.แปรญัตติไว้ก็เอากลับมาเป็นงบกลางหมดแล้ว หากทำอย่างนั้นก็ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ
นางนินนาท กล่าวต่อว่า ส่วนงบกลางเมื่อมีการรวมงบแปรญัตติเข้ามาแล้ว จะถูกตั้งไว้ในหน่วยงานตามข้อบัญญัติ กทม. เช่น สำนักงานเขตต่างๆ ซึ่งจะมีงบสำหรับอบรมสัมมนา เพื่อพาข้าราชการไปศึกษาดูงาน หรือจัดอบรมสัมมนา ผู้ตั้งเบิกคือสำนักงานเขต ส่วนจะมี ส.ก.เดินทางไปดูงานด้วยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานได้เชิญหรือไม่ ซึ่งแตกต่างกับสมัยที่มีงบแปรญัตติ ส.ก. ที่ ส.ก.จะเป็นผู้เชิญหน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม เรื่องการไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ ขณะนี้เมื่อมีมติคณะรัฐมนตรี ห้ามหน่วยงานของรัฐดูงานในต่างประเทศ กทม.ก็ได้ระงับหมดยกเว้นที่มีความจำเป็นและมีผลผูกพันไปแล้ว ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านางวรรณวิไล ยื่นใบลาออกเพื่อหนีการถูกตรวจสอบเรื่องนี้นั้น เชื่อว่าไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นเพราะนางวรรณวิไลมีความอึดอัดในเรื่องการทำงาน แต่ไม่ใช่เรื่องนี้อย่างแน่นอน
จากกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับขบวนการเบียดบังงบประมาณของ กทม.เพื่อเข้ากระเป๋า ส.ก. หรือเรียกว่า งบฯ ส.ก.โดยเป็นการกันงบฯ กลางของผู้ว่าฯ กทม.เอาไว้ให้กับ ส.ก.ทั้ง 56 คน คนละ 30 ล้านบาท รวมเป็นเงินถึง 1,680 ล้านบาท ซึ่งอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 และได้ทำหนังสือขอเอกสารจากทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัด กทม. และสำนักงบประมาณ ช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งบประมาณก่อนที่จะส่งให้กรรมาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งเท่าที่ตนทราบมีการร้องขอเอกสารมา 6-7 เรื่อง แต่จำไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ส่วนเรื่องที่ กมธ.ป.ป.ช.ตั้งท่าจะสอบงบฯ ส.ก.นั้นไม่เกี่ยวกับการที่นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองปลัด กทม.ยื่นใบลาออกแต่อย่างใด
ด้าน นางนินนาท กล่าวว่า เนื่องจากจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ จึงขอเวลาในการรวบรวมข้อมูลเป็นเวลา 30 วัน โดยเรื่องที่ กมธ.ป.ป.ช.ร้องขอเอกสารมา เช่น การซื้อสื่อการเรียนการสอน การจัดซื้อถังดับเพลิง การจัดซื้อแว่นตา และโครงการสัมมนา เป็นต้น ส่วนที่มีการระบุถึงการใช้งบฯ ส.ก.นั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะหลังจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุห้ามใช้งบแปรญัตติ ส.ก.ตั้งแต่นั้นมางบที่ ส.ก.แปรญัตติไว้ก็เอากลับมาเป็นงบกลางหมดแล้ว หากทำอย่างนั้นก็ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ
นางนินนาท กล่าวต่อว่า ส่วนงบกลางเมื่อมีการรวมงบแปรญัตติเข้ามาแล้ว จะถูกตั้งไว้ในหน่วยงานตามข้อบัญญัติ กทม. เช่น สำนักงานเขตต่างๆ ซึ่งจะมีงบสำหรับอบรมสัมมนา เพื่อพาข้าราชการไปศึกษาดูงาน หรือจัดอบรมสัมมนา ผู้ตั้งเบิกคือสำนักงานเขต ส่วนจะมี ส.ก.เดินทางไปดูงานด้วยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานได้เชิญหรือไม่ ซึ่งแตกต่างกับสมัยที่มีงบแปรญัตติ ส.ก. ที่ ส.ก.จะเป็นผู้เชิญหน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม เรื่องการไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ ขณะนี้เมื่อมีมติคณะรัฐมนตรี ห้ามหน่วยงานของรัฐดูงานในต่างประเทศ กทม.ก็ได้ระงับหมดยกเว้นที่มีความจำเป็นและมีผลผูกพันไปแล้ว ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านางวรรณวิไล ยื่นใบลาออกเพื่อหนีการถูกตรวจสอบเรื่องนี้นั้น เชื่อว่าไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นเพราะนางวรรณวิไลมีความอึดอัดในเรื่องการทำงาน แต่ไม่ใช่เรื่องนี้อย่างแน่นอน