เครือข่ายต้านเหล้าฯ บุก สธ.เสนอห้ามขายวันพระใหญ่-สงกรานต์ หนุนติดรูปเตือนข้างขวด

เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ บุก สธ.ยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ จี้ห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่ มาฆบูชา อาสาฬหบูชา วิสาขบูขา เข้าพรรษา รวมถึงสงกรานต์ ออกกฎกระทรวง คลอดแนวปฏิบัติชัดเจน เร่งจัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พร้อมหนุนติดฉลากรูปคำเตือนที่กล่องหรือขวดเหล้า ด้าน “วิทยา” รับข้อเสนอ แต่เบื้องต้นเล็งจัดโซนนิ่งห้ามขายเหล้าช่วงเทศกาลระบุแก้ไขตรงจุดกว่า

วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ พร้อมภาคี 264 องค์กร จำนวน 200 คน เดินทางมายังอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเรื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ให้แสดงความชัดเจนในมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ผู้ชุมนุมมีการถือป้ายผ้าข้อความเช่น “สาธารณสุขต้องกล้าฝ่าอิทธิพลน้ำเมา”, “สงกรานต์.. คนกลัว 32.85% เป็นต้น

นายคำรณ กล่าวว่า เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ขอเรียกร้องให้มีการเร่งดำเนินการ 4 ข้อ ดังนี้ 1.ขอให้เร่งผลักดันให้วันมาฆบูชา อาสาฬหบูชา วิสาขบูขา และวันเข้าพรรษา เป็นวันห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.ขอให้มีความในการเร่งผลักดันให้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เป็นวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.ขอให้เร่งออกกฎกระทรวง ให้มีผลบังคับใช้ไม่ต่ำกว่ากฎเกณฑ์เดิมที่มีอยู่ เช่น การห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางวิทยุ โทรทัศน์ ระหว่างเวลา 05.00-22.00 น.เป็นต้น และเร่งออกหลักเกณฑ์ หรือ แนวปฏิบัติอย่างชัดเจน 4.ขอให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติและคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นจริง และ 5.สนับสนุนแนวคิดสธ.ติดฉลาก รูป คำเตือน ที่กล่องหรือขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่นเดียวกับซองบุหรี่

นายคำรณ กล่าวภายหลังเข้าพบ รมว.สาธารณสุข ด้วยว่า ได้หารือกับ รมว.สาธารณสุข ซึ่งเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้เห็นด้วยกับการกำหนดโซนนิ่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากมีการคำนึงถึงตัวเลขและข้อมูลที่แท้จริงเพื่อการแก้ปัญหาตรงจุด และเชื่อว่าหากมีการห้ามจริงก็สามารถทำได้ นักท่องเที่ยวก็เกิดการยอมรับ เพราะเป็นกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ เพราะนักท่องเที่ยวไม่ได้มุ่งหวังเพื่อมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ชื่นชอบธรรมชาติมากกว่า

นายวิทยา กล่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของเครือข่ายทั้งหมด แต่เบื้องต้นจะพิจารณาห้ามจำหน่ายในบางพื้นที่ เนื่องจากอุบติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นในถนนสายรองตามหมู่บ้าน ไม่ใช่ถนนสายหลัก จึซึ่งถือเป็นการการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดมากกว่า โดยคำนึงถึงข้อมูลและความเป็นจริงที่เหมาะสม และไม่กระทบกับการท่องเที่ยว ส่วนการห้ามการจำหน่ายในวันพระใหญ่ก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว เพราะในทางปฏิบัติคนส่วนใหญ่ไม่นิยมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะคำนึงถึงเรื่องศีลธรรม

“ส่วนการจัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ คาดว่าจะสามารถดำเนินการจัดการประชุมได้ในกลางเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากขณะนี้เหลือเพียงการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคประชาชน 3 คน และภาคเอกชน 3 คน เท่านั้น” นายวิทยากล่าว