“สุเมธ” แย้มพอมีทางเยียวยาเด็กพลาดเอเน็ต หากมีเจตนา-พยายามอยู่ในระบบ

“สุเมธ” แย้มพอมีทางเยียวยาเด็กพลาดเอเน็ต หากพบว่า เด็กมีเจตนารมณ์และพยายามจะอยู่ในระบบ ซึ่งสามารถตรวจสอบหลักฐานจากเด็กได้ โดยพอมองเห็นอยู่บ้างในจำนวนผู้มาร้องเรียนทั้งหมด เผย แจง ส.ว.รสนา เข้าใจเรื่องระบบดีแล้วโดยฝากข้อเสนอให้ สกอ.พิจารณา

เมื่อเวลา 17.45 น. นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นคำร้องขอสอบเอเน็ต กทม.และต่างจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ รวมทั้งสิ้น 288 ราย เฉพาะวันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีจำนวน 75 ราย จำแนกเป็น กทม.20 ราย ต่างจังหวัด 55 ราย จาก 54 ศูนย์ฯ สำหรับผลการเข้าพบ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว. กทม.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษาตรวจสอบทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล และคณะนั้น ตนได้ชี้แจงถึงระบบการสมัครเอเน็ตทางอินเทอร์เน็ต ที่ไม่พบว่ามีปัญหา ซึ่ง น.ส.รสนา ก็เข้าใจ แต่ก็ได้ฝากข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการมาให้ตนพิจารณาด้วย

โดยขอให้ สกอ.ขยายเวลาการชำระเงินค่าสมัครเอเน็ตโดยอาจมีเงื่อนไขเสียค่าปรับ การเยียวยาครั้งนี้ขอให้ช่วยเหลือครอบคลุมไปถึงเด็กที่สมัครเอเน็ตไม่ได้โดยมีเหตุผลจำเป็น ส่วนการคัดกรองเด็กที่สอบติดระบบรับตรง หรือมีที่เรียนอื่นแล้ว ก็ควรให้เด็กได้ยืนยันการสละสิทธิ์มายัง สกอ. ซึ่งตนก็จะรับไปพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้

“การพิจารณาให้การเยียวยานั้น ก็พอมีแนวทางที่จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ซึ่งจะต้องยึดหลักการและดูเจตนารมณ์ ว่า เด็กมีความพยายามที่จะดำเนินการเพื่อให้อยู่ในระบบหรือไม่ อย่างไร โดยสามารถตรวจสอบด้วยหลักฐานในเด็กบางคนได้ และเท่าที่ดูจากผู้ร้องเรียนเข้ามา ก็พอเห็นอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ต้องรอการตัดสินวันที่ 13 กุมภาพันธ์” เลขา กกอ.กล่าว

นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า สกอ.ได้สุ่มโทรศัพท์ตรวจถามเด็กในกลุ่ม 22,000 คน ที่ไม่ได้ชำระเงินเพิ่มอีก 60 คน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 100 คน โดยพบว่า มี 66% ตั้งใจไม่ชำระ 7% ไม่รู้เวลาหมดเขตชำระ 10% ลืม และ 17% มีสาเหตุอื่นๆ และจาก 100 คนดังกล่าว พบว่า ได้สมัครรับตรงด้วย 47% โดยมี 35% ที่สอบรับตรงได้ อีก 9% รอฟังผลและอีก 3% ไม่ผ่าน และที่เหลืออีก 53% ไม่ได้สมัครรับตรง เพราะได้โควตา มีที่เรียนในชั้นปี 1, 2 และไม่ระบุสาเหตุ