กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยผลตรวจคุกกี้ผสมกวาวเครือขาว F Cup Cookie จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เบื้องต้นพบสารไดซีอีนและเจนนีสทีนในปริมาณสูง เตือนสารดังกล่าวหากใช้ในปริมาณสูง อาจเกิดความผิดปกติต่อระบบพันธุกรรมและระบบประสาท
นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่าจากกรณีที่มีข่าวการโฆษณาจำหน่ายคุกกี้ผสมสารสกัดจากกวาวเครือขาว ชื่อผลิตภัณฑ์ F Cup Cookie อย่างแพร่หลายผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยอ้างสรรพคุณว่าสามารถช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกให้อวบอิ่มขึ้นนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการพบสารไดซีอีน (Daidzein) และ เจนนีสทีน (Genistein) ในปริมาณค่อนข้างสูง
สำหรับสารไดซีอีน และสารเจนนีสทีน ที่ตรวจพบเป็นสารไฟโตเอสโตรเจน(Phytoestrogen) ในพืชสกุลเพอราเรีย (Pueraria) หรือพืชตระกูลถั่ว โดยปกติจะมีฤทธิ์อ่อนมากและไม่สามารถแสดงฤทธิ์ตามที่ได้มีการกล่าวอ้างสรรพคุณในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และมีรายงานการศึกษาว่าหากใช้ในปริมาณสูง อาจมีความผิดปกติต่อระบบพันธุกรรม (Genotoxicity) และระบบประสาท (Neurotoxicity) ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังในการบริโภคอย่างมาก
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2542 กวาวเครือขาว มีสรรพคุณที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน และจัดเป็นตัวยาตัวหนึ่ง ในตำรับยาบำรุงร่างกาย อย่างไรก็ตามหากจะนำมาใช้เป็นยาฮอร์โมนหรืออาหารเสริมได้อย่างปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมทางด้านพิษวิทยา ดังนั้น หากผู้บริโภคจะซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทาน ต้องดูรายละเอียดที่แสดงบนฉลากให้ครบถ้วน โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายต้องได้รับอนุญาตจาก อย.เพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก่อน และควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากถูกต้อง มีเลขสารบบอาหาร อ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์จากฉลากที่ได้รับอนุญาต ไม่ควรเชื่อข้อมูลจากการโฆษณาของผู้จำหน่ายที่นอกเหนือจากที่ระบุในฉลาก
นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่าจากกรณีที่มีข่าวการโฆษณาจำหน่ายคุกกี้ผสมสารสกัดจากกวาวเครือขาว ชื่อผลิตภัณฑ์ F Cup Cookie อย่างแพร่หลายผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยอ้างสรรพคุณว่าสามารถช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกให้อวบอิ่มขึ้นนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการพบสารไดซีอีน (Daidzein) และ เจนนีสทีน (Genistein) ในปริมาณค่อนข้างสูง
สำหรับสารไดซีอีน และสารเจนนีสทีน ที่ตรวจพบเป็นสารไฟโตเอสโตรเจน(Phytoestrogen) ในพืชสกุลเพอราเรีย (Pueraria) หรือพืชตระกูลถั่ว โดยปกติจะมีฤทธิ์อ่อนมากและไม่สามารถแสดงฤทธิ์ตามที่ได้มีการกล่าวอ้างสรรพคุณในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และมีรายงานการศึกษาว่าหากใช้ในปริมาณสูง อาจมีความผิดปกติต่อระบบพันธุกรรม (Genotoxicity) และระบบประสาท (Neurotoxicity) ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังในการบริโภคอย่างมาก
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2542 กวาวเครือขาว มีสรรพคุณที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน และจัดเป็นตัวยาตัวหนึ่ง ในตำรับยาบำรุงร่างกาย อย่างไรก็ตามหากจะนำมาใช้เป็นยาฮอร์โมนหรืออาหารเสริมได้อย่างปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมทางด้านพิษวิทยา ดังนั้น หากผู้บริโภคจะซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทาน ต้องดูรายละเอียดที่แสดงบนฉลากให้ครบถ้วน โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายต้องได้รับอนุญาตจาก อย.เพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก่อน และควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากถูกต้อง มีเลขสารบบอาหาร อ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์จากฉลากที่ได้รับอนุญาต ไม่ควรเชื่อข้อมูลจากการโฆษณาของผู้จำหน่ายที่นอกเหนือจากที่ระบุในฉลาก
