แพทย์แนะใช้พญายอรักษาโรคงูสวัด ไม่จำเป็นต้องกินยาเพราะโรคนี้หายเองได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
จากกรณีที่นางสาวสมจิตร ประดับนาค อายุ 37 ปี ลูกจ้างโรงพยาบาลแห่งหนึ่งป่วยเป็นงูสวัดที่แผ่นหลังและน่องด้านขวา จึงไปปรึกษากับเภสัชกรที่ร้านขายยาแผนโบราณชื่อดัง ทางร้านได้จัดยาให้ 2 ชุด ชุดแรกเป็นยาบดผง บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกขนาดเล็ก ระบุข้างขวดว่ายาทา “ปุยจั้วชั้ว” ให้ใช้ผสมกับเหล้าขาวทาบริเวณที่เป็น และยาชุดที่ 2 เป็นยาสมุนไพรประกอบด้วยรากไม้ 5 ชนิด คือ รากเท้ายายม่อม รากชิงชี่ มะเดื่อชุมพร รากคนทา รากย่านาง และต้นข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ต้มดื่มกินหลังแผลหาย หลังจากที่ได้ต้มยาชุดที่ 2 ดื่มกินแล้วเกิดอาการ ปวดแสบปวดร้อนตามตัว ใบหน้า แขน ขา มีตุ่มผื่นขึ้นตามร่างกายและเริ่มลุกลามกลายเป็นแผลพุพอง
วันที่ 30 มกราคม นพ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า โรคงูสวัด เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าเฮอร์ปี วาริเซลลา ซอสเตอร์ (Herpes Varicella Zoster) เป็นชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดไข้สุกใส ผู้ที่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อน จะยังคงมีเชื้อไวรัสชนิดนี้หลงเหลืออยู่ในปมประสาทสันหลัง เมื่อถูกกระตุ้นจะสามารถทำให้เกิดโรคงูสวัดได้ บริเวณที่พบได้บ่อยคือ เอว คอ ก้นกบ ลำตัว ใบหน้า ผู้ใหญ่ร้อยละ 90 จะมีภูมิต้านทานเชื้อนี้ โดยพบผู้ป่วยได้ประมาณ 3 คนในประชาชนทุก 1,000 คน อาการเริ่มด้วยปวดศีรษะ เคืองตา ปวดตามตัว มักจะไม่มีไข้ ต่อมาจะมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนอาการทางผิวหนัง 100 คน คนเป็นงูสวัดได้แก่ผู้ที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอดโรคกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นงูสวัดได้แก่ผู้ที่มีภูมิต้านทานน้อย เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ที่เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ผู้ที่กินยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคมะเร็ง ผู้สูงอายุมักเป็นรุนแรงกว่าเด็ก โรคนี้เป็นโรคที่หายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นโรคงูสวัด มักจะปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่เป็นมาก ประชาชนมักจะหายามาทาบรรเทาปวด โดยในส่วนของสมุนไพรพื้นบ้านไทยขณะนี้พบว่า เสลดพังพอนตัวเมีย หรือพญายอ มีสรรพคุณที่เด่นมากในการใช้รักษาโรคทางผิวหนัง สามารถรักษาเริม และงูสวัดได้ดีพอๆกับยาจากต่างประเทศ และยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบได้ดี ซึ่งเสลดพังพอนสามารถใช้ทั้งแบบสดและแบบแปรรูปในรูปของครีม เจล คาลามายด์ และโลชั่น มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป
สำหรับการใช้เสลดพังพอนตัวเมียแบบสดรักษาโรคงูสวัดนั้น ให้ใช้เสลดพังพอนตัวเมียสดๆ 15-20 ใบตำผสมเหล้าโรง 28 ดีกรี แล้วใช้พอกตามตุ่มของงูสวัดให้ทั่ววันละ 2-3 ครั้งติดต่อกันทุกวัน และใช้ใบสดอีกประมาณ 15-20 ใบ ตำกับน้ำซาวข้าวครึ่งถ้วยชา ดื่มวันละสองครั้ง ก่อนอาหารเพื่อขับพิษ ไม่ควรใช้วิธีตำพอกลงบริเวณที่มีอาการโดยตรงเพราะจะทำให้กากติดแผล ทำความสะอาด ยาก อาจทำให้ติดเชื้อเป็นหนองได้
สารสกัดจากใบเสลดพังพอนเมื่อนำมารักษาผู้ป่วยโรคงูสวัด จะทำให้แผลตกสะเก็ดและแผลหายเร็วขึ้น เพราะสามารถทำลายเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคงูสวัดได้โดยตรง รวมทั้งสามารถลดอาการปวดได้รวดเร็ว และยังนำคาลาไมน์เสลดพังพอนมารักษาตุ่มคันจากโรคสุกใสพบว่าแผล หายคันและแห้งเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในรูปของยาหม่องเพื่อแก้ฟกช้ำดำเขียว หรือรูปแบบกลีเซอรีนเพื่อใช้กับแผลในปากได้อีกด้วย ส่วนยาที่นางสาวสมจิตรซื้อมาจากร้านขายยาแผนโบราณนั้นเป็นยาที่ใช้แก้พิษไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ โรคผิวหนัง ท้องร่วง ซึ่งบางรายอาจเกิดอาการแพ้ได้
จากกรณีที่นางสาวสมจิตร ประดับนาค อายุ 37 ปี ลูกจ้างโรงพยาบาลแห่งหนึ่งป่วยเป็นงูสวัดที่แผ่นหลังและน่องด้านขวา จึงไปปรึกษากับเภสัชกรที่ร้านขายยาแผนโบราณชื่อดัง ทางร้านได้จัดยาให้ 2 ชุด ชุดแรกเป็นยาบดผง บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกขนาดเล็ก ระบุข้างขวดว่ายาทา “ปุยจั้วชั้ว” ให้ใช้ผสมกับเหล้าขาวทาบริเวณที่เป็น และยาชุดที่ 2 เป็นยาสมุนไพรประกอบด้วยรากไม้ 5 ชนิด คือ รากเท้ายายม่อม รากชิงชี่ มะเดื่อชุมพร รากคนทา รากย่านาง และต้นข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ต้มดื่มกินหลังแผลหาย หลังจากที่ได้ต้มยาชุดที่ 2 ดื่มกินแล้วเกิดอาการ ปวดแสบปวดร้อนตามตัว ใบหน้า แขน ขา มีตุ่มผื่นขึ้นตามร่างกายและเริ่มลุกลามกลายเป็นแผลพุพอง
วันที่ 30 มกราคม นพ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า โรคงูสวัด เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าเฮอร์ปี วาริเซลลา ซอสเตอร์ (Herpes Varicella Zoster) เป็นชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดไข้สุกใส ผู้ที่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อน จะยังคงมีเชื้อไวรัสชนิดนี้หลงเหลืออยู่ในปมประสาทสันหลัง เมื่อถูกกระตุ้นจะสามารถทำให้เกิดโรคงูสวัดได้ บริเวณที่พบได้บ่อยคือ เอว คอ ก้นกบ ลำตัว ใบหน้า ผู้ใหญ่ร้อยละ 90 จะมีภูมิต้านทานเชื้อนี้ โดยพบผู้ป่วยได้ประมาณ 3 คนในประชาชนทุก 1,000 คน อาการเริ่มด้วยปวดศีรษะ เคืองตา ปวดตามตัว มักจะไม่มีไข้ ต่อมาจะมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนอาการทางผิวหนัง 100 คน คนเป็นงูสวัดได้แก่ผู้ที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอดโรคกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นงูสวัดได้แก่ผู้ที่มีภูมิต้านทานน้อย เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ที่เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ผู้ที่กินยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคมะเร็ง ผู้สูงอายุมักเป็นรุนแรงกว่าเด็ก โรคนี้เป็นโรคที่หายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นโรคงูสวัด มักจะปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่เป็นมาก ประชาชนมักจะหายามาทาบรรเทาปวด โดยในส่วนของสมุนไพรพื้นบ้านไทยขณะนี้พบว่า เสลดพังพอนตัวเมีย หรือพญายอ มีสรรพคุณที่เด่นมากในการใช้รักษาโรคทางผิวหนัง สามารถรักษาเริม และงูสวัดได้ดีพอๆกับยาจากต่างประเทศ และยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบได้ดี ซึ่งเสลดพังพอนสามารถใช้ทั้งแบบสดและแบบแปรรูปในรูปของครีม เจล คาลามายด์ และโลชั่น มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป
สำหรับการใช้เสลดพังพอนตัวเมียแบบสดรักษาโรคงูสวัดนั้น ให้ใช้เสลดพังพอนตัวเมียสดๆ 15-20 ใบตำผสมเหล้าโรง 28 ดีกรี แล้วใช้พอกตามตุ่มของงูสวัดให้ทั่ววันละ 2-3 ครั้งติดต่อกันทุกวัน และใช้ใบสดอีกประมาณ 15-20 ใบ ตำกับน้ำซาวข้าวครึ่งถ้วยชา ดื่มวันละสองครั้ง ก่อนอาหารเพื่อขับพิษ ไม่ควรใช้วิธีตำพอกลงบริเวณที่มีอาการโดยตรงเพราะจะทำให้กากติดแผล ทำความสะอาด ยาก อาจทำให้ติดเชื้อเป็นหนองได้
สารสกัดจากใบเสลดพังพอนเมื่อนำมารักษาผู้ป่วยโรคงูสวัด จะทำให้แผลตกสะเก็ดและแผลหายเร็วขึ้น เพราะสามารถทำลายเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคงูสวัดได้โดยตรง รวมทั้งสามารถลดอาการปวดได้รวดเร็ว และยังนำคาลาไมน์เสลดพังพอนมารักษาตุ่มคันจากโรคสุกใสพบว่าแผล หายคันและแห้งเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในรูปของยาหม่องเพื่อแก้ฟกช้ำดำเขียว หรือรูปแบบกลีเซอรีนเพื่อใช้กับแผลในปากได้อีกด้วย ส่วนยาที่นางสาวสมจิตรซื้อมาจากร้านขายยาแผนโบราณนั้นเป็นยาที่ใช้แก้พิษไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ โรคผิวหนัง ท้องร่วง ซึ่งบางรายอาจเกิดอาการแพ้ได้
