“เสธ.หนั่น” เข้ามอบ 4 นโยบายแก่สำนักฯ พุทธศาสนาแห่งชาติ ย้ำรบ.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศาสนา ทุ่มงบกว่า 3.44 พันล้านพัฒนา และเร่งฟื้นฟูบทบาทพระสงฆ์ เชื่อมความปรองดองด้วยบทบาท บ้าน วัด โรงเรียน เชื่อศาสนาคือทางออกของความขัดแย้งได้ดีที่สุด
วันนี้ (26 ม.ค.) เวลาประมาณ 14.30 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามอบนโยบายแก่ผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย นายจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า พศ.ได้รับหน้าที่ให้ส่งเสริมพระพุทธศาสนาในประเทศไทย โดยในปี 2552 ได้รับงบประมาณเพื่อการส่งเสริมสถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองและทำการเผยแพร่ในระดับนานาชาติ รวมถึงพัฒนาระบบสารสนเทศให้เป็นแหล่งค้นคว้าที่สำคัญของพระพุทธศาสนา จำนวน 3,449 ล้านบาท โดยล่าสุดได้รับการส่งเสริมให้กับสถาบันของพระสงฆ์คือ โรงเรียนปริยัติธรรมทั่วประเทศอีกว่า 117 ล้านบาท
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันเล็งเห็นความสำคัญของสถาบันพระพุทธศาสนา เนื่องจากเชื่อว่าเป็นบ่อเกิดของวัฒนธรรมที่ดีและมีความผูกพันเกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตคนไทยตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันควบคู่ไปกับสถาบันชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในการแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.51 ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับนโยบายการส่งเสริมองค์กรศาสนาควบคู่ไปกับศิลปวัฒนธรรม โดยส่งเสริมบทบาทสถาบันหลักได้แก่ ครอบครัว ศาสนา และสถาบันการศึกษา เพื่อปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนในปัจจุบันซึ่งรับวัฒนธรรมทั้งดีและไม่ดีจากต่างชาติ จึงจำเป็นจะต้องได้รับแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมต่อไป
พล.ต.สนั่น กล่าวต่ออีกว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้กำกับการบริหารราชการสำนักพระพุทธศาสนา ได้มอบแนวนโยบาย 4 ข้อ ดังนี้ 1.มุ่งส่งเสริมการนำหลักธรรมมาเสริมสร้างความปรองดองสามัคคีของประชาชนในชาติ เนื่องจากปัจจุบันมีการแบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่ายและความสามัคคีเริ่มถดถอย ประชาชนขาดซึ่งสติในการคัดกรองข้อมูลข่าวสาร ดังนั้น เชื่อว่าหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาจะสามารถหล่อหลอมและนำมาพัฒนาจิตใจ เพื่อให้รู้เท่าทันสถานการณ์
“การให้ พศ.กระจายความรู้แก่ประชาชนโดยให้พระสงฆ์ซึ่งเป็นศูนย์รวมของชุมชนเข้าเทศนาเพื่อสร้างความเข้าใจและรับข่าวสารที่ถูกต้อง สร้างความปรองดองในชุมชนต่อไป โดยเชื่อว่าศาสนาจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ ดีกว่าข้าราชการ กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ข้อ 2 เร่งรัดให้ออกกฎหมายในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เนื่องจากในรอบหลายปีที่ผ่านมา มักจะมีผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนาอยู่บ่อยครั้งและมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีมาตรการลงโทษที่ชัดเจน โดยมอบหมายให้สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติติดตามเรื่องนี้ต่อไป
3.ฟื้นฟูบทบาทของสถาบัน บ้าน วัด โรงเรียน และข้าราชการให้เป็นศูนย์กลางชุมชนโดยมี พศ.เป็นหน่วยงานที่ช่วยขับเคลื่อนให้ทั้ง 4 สถาบันมีความเข้มแข็ง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยลดปัญหาในด้านต่างๆ ให้ลดลงได้ และ 4.ส่งเสริมบทบาทและงบประมาณในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ให้สามารถทำหน้าที่ถ่ายทอดพระพุทธศาสนาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
“ผมอยากเห็นหน่วยงานต่างๆ มีภารกิจในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ร่วมมือกับ พศ.ฟื้นฟู บ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการให้เป็นสถานที่ที่สามารถสร้างความเข้มแข็งและให้ความอบอุ่น และปัจจุบันที่มีการปรับแนวทางการเทศน์ของพระสงฆ์ให้ทันสมัยมากขึ้นนั้นเห็นว่าหน่วยงานภาครัฐควรให้การสนับสนุนและส่งเสริม” พล.ต.สนั่นกล่าว
