“อภิสิทธิ์” เผยรัฐบาลจะนำเงินที่อยู่ในกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอีก 10,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ปกครองที่มีปัญหาค่าเล่าเรียนบุตร เพื่อลดปัญหาติดขัดในระบบการกู้ยืมที่ออกให้สำหรับคนที่เคยขอมาก่อน เปิดให้ทุกคนขอได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์” ถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเรื่องการเรียนฟรี ที่มีการสอบถามมาว่ารัฐบาลจะช่วยเหลืออะไรบ้าง ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินโครงการตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึงมัธยมปลาย หรือ ปวช. โดยการสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์การเรียน สมุด ดินสอ ปากกา ยางลบ และเครื่องแบบนักเรียน คนละ 2 ชุด ซึ่งจะจัดหาและดำเนินการให้เสร็จก่อนเปิดเทอม ส่วนเรื่องค่าเล่าเรียน รัฐได้จัดงบประมาณเพิ่มเติมไปให้สถานศึกษาต่างๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชน ตามเกณฑ์ และจะครอบคลุมไปถึงสถานศึกษาในกระทรวงอื่นด้วย หากเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของพ่อ แม่ ผู้ปกครอง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการขอใช้เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เนื่องจากขณะนี้ก็มีเด็ก และผู้ปกครองเดือดร้อนเรื่องทุนการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นไป ซึ่งตนได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการไปดูแลแล้วเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ นักเรียนที่ไม่เคยต้องการใช้บริการเงินจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา มีความจำเป็น แต่ ติดปัญหาไม่ได้ใช้เงินกองทุนฯ ตั้งแต่การเรียนในระดับแรกจึงไม่สามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนฯ ได้
“วิธีที่ทำในอดีต เรามักจะให้กู้ยืมรายใหม่ตอนที่เข้า ม.4 บ้าง ปี 1 บ้าง ฉะนั้นใครที่ได้รับการอนุมัติ ตั้งแต่ ม.3 ต่อ ม.4 ต่อ ปี 1 ก็จะได้รับตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่” นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากได้สั่งการไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้หาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ทำให้ทราบว่า เงินกองทุนฯ น่าจะเหลืออยู่ที่จะนำออกไปใช้ได้อีก 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะไปศึกษาดูว่าจะเปิดโอกาสให้นักเรียนรายใหม่เข้ามากู้ยืมจากกองทุนฯ ที่ขยายไปได้อย่างไร
สำหรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่มีความล่าช้าแน่นอน เมื่อร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ผ่านก็คาดว่าจะโอนเงินได้ประมาณเดือนเมษายน 2552
