xs
xsm
sm
md
lg

“ถาวร” ขอ ป.ป.ช.ให้ความเป็นธรรม “อภิรักษ์” คดีรถดับเพลิง ชี้อสส.พบสำนวนไม่สมบูรณ์ 8ข้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายถาวร เสนเนียม
“ถาวร” ขอ ป.ป.ช.ให้ความเป็นธรรม “อภิรักษ์” และผู้เกี่ยวข้องทุกคนโดยเฉพาะอดีตขรก.กทม.ในคดีทุจริตเรือ-รถดับเพลิง เผยขณะนี้กทม.ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดตีความประเด็นปัญหา โดยเฉพาะการจ่ายค่างวดที่ถึงกำหนดต้องชำระงวด 5 วันที่ 11 ก.พ.นี้ พร้อมเผยอัยการส่งสำนวนคืน ป.ป.ช.เหตุพบความไม่สมบูรณ์ 8 ข้อ


วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการ กทม. (ก.ก.) เรื่องปัญหารถและเรือดับเพลิง กทม. มูลค่า 6,687 ล้านบาท เนื่องจากวันที่ 11 ก.พ. นี้ครบกำหนดที่ กทม.ต้องชำระค่ารถดับเพลิงงวดที่ 5 วงเงิน 790 ล้านบาท ในสัดส่วน กทม.40% และรัฐบาล 60% ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สรุปสำนวนให้ฟ้องศาลเพื่อยกเลิกสัญญาว่า เรื่องการชำระเงินค่างวดนี้มีปัญหาเรื่องความคิดที่แตกต่างกันทั้งเชิงสังคมและเชิงข้อกฎหมาย ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสียรูปคดีหรือเสียโอกาส กทม.จึงทำหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุด( อสส.) เพื่อหารือในประเด็นต่างๆ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน
ได้แก่ หากจ่ายเงินในงวดต่อไปจะเป็นปัญหาต่อคดีในขั้นตอนสุดท้ายหากว่าสัญญาเป็นโมฆะคืนสู่สภาพเดิมหรือไม่ หรือในข้อกฎหมายที่กทม.ต้องจ่ายเงินค่างวดไปแล้ว 4 งวด และหากต้องจ่ายในงวดที่ 5 เพราะสัญญาแอลซีบังคับ ทั้งที่เป็นเงินภาษีประชาชน ก็เกิดความกังวลว่าจะจ่ายหรือไม่ต้องจ่ายกันอย่างไร อีกแง่หนึ่งคือเงินที่ชำระไปก่อนหน้านี้เป็นการซื้อของก็ต้องได้ของ ทำไมปล่อยให้จอดตากแดดตากฝน แล้วถ้านำรถมาใช้ถ้าสัญญาโมฆะต้องคืนของจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าปล่อยของกันไว้แบบนี้ไม่รับมาใช้งานก็มีปัญหาต่อการใช้งานโดยเฉพาะยางรถยนต์และแบตเตอรี่ที่ต้องเสื่อมสภาพ

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ต้องรอคำตอบจากอัยการซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาต้องชำระเงินอีกราว 20 วัน ก็หวังว่าทาง อสส.จะเห็นความสำคัญของเงื่อนเวลาดังกล่าว จึงขอความกรุณาให้เร่งพิจารณาเรื่องนี้ เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินการให้ กทม.
รถดับเพลิงเจ้าปัญหา
นายถาวร กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการฟ้องคดีที่ ป.ป.ช.ระบุว่าการทำสัญญาโปร่งใสหรือทุจริตหรือไม่อยู่ที่ฝ่าย ป.ป.ช. ซึ่งได้มอบหมายให้อัยการเป็นผู้ฟ้องคดี ล่าสุดทราบว่าทางอัยการได้แจ้งกลับ ป.ป.ช.เพราะมีข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนทั้งหมด 8 ข้อ เช่น ข้อสรุปของอนุกรรมการคตส.ที่นายประเสริฐ บุญศรี เป็นผู้สรุปผลการตรวจสอบ กลับไม่ปรากฏในสำนวนที่ ป.ป.ช.ส่งให้อัยการทั้งที่ข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการชุดนี้เป็นประโยชน์ที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.จะได้รับความยุติธรรม เพราะน่าจะไม่มีความผิดแต่สำนวนดังกล่าวไม่มี ตนจึงอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้นายอภิรักษ์ เพราะป.ป.ช.ต้องคำนึงถึงความยุติธรรมกับผู้ถูกกล่าวหารวมทั้งความยุติธรรมของประเทศชาติ ในการรักษาผลประโยชน์เพราะคนถูกฟ้องต้องทนทุกข์ทรมานไปหาทนายหากสุดท้ายสำนวนพยานหลักฐานเบาในการตกเป็นจำเลยของสังคมและเป็นจำเลยในศาลเดียวคือศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่มีโอกาสต่อสู้เหมือนทั้ง 3 ศาล ดังนั้นการกล่าวหาว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดน้ำหนักของพยานหลักฐานควรเพียงพอให้ศาลลงโทษได้

ด้วยเหตุดังกล่าว ระหว่างนี้จึงยังไม่ได้ถึงขั้นตอนการฟ้องคดี จนกว่าจะมีข้อสรุปในปัญหาที่อัยการทักท้วง ป.ป.ช. ก่อน ยืนยันว่าเรื่องนี้ตนไม่ได้พูดเพื่อปกป้องนายอภิรักษ์เท่านั้น แต่พูดในภาพรวมซึ่ง ป.ป.ช.ควรให้ความยุติธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาทุกฝ่าย ทุกคน เพราะนอกจากนายอภิรักษ์แล้วก็ทราบว่ามีอดีตข้าราชการ กทม.หลายคนที่ถูกกล่าวหาด้วย

ขณะที่นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานกฎหมายของ กทม.ตีความว่า กทม.ยังต้องชำระค่ารถในงวดที่ 5 เพราะสัญญาแอลซี ซึ่งแยกจากสัญญาหลักในการจัดซื้อรถบังคับ อย่างไรก็ตาม เพื่อความรอบคอบตนและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เห็นชอบให้ส่งหนังสือสอบถามอัยการก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น