ม.ขอนแก่น จัดทำหนังสือพร้อมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ชุด “ถนิมประดับกรรณ ทุกเมื่อ : สามัคคี” เผยแพร่เป็นอนุสรณ์ในวาระครบ 1 ปีการสิ้นพระชนม์ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ” และในโอกาสวันเด็กแห่งชาติปี 52 ผลิตจำนวน 1,000 ชุด พร้อมเผยแพร่ไปยังโรงเรียนศึกษาพิเศษ (ผู้พิการทางสายตา) สถานสงเคราะห์คนชรา สถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ
ผศ.วิไลวรรณ สมโสต รองประธานกรรมการบริหาร “กองทุนพระมหาชนก” ม.ขอนแก่น กล่าวถึงที่มาของโครงการผลิตหนังสือพร้อมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ชุด “ถนิมประดับกรรณ ทุกเมื่อ : สามัคคี” ว่า เป็นโครงการที่กองทุนพระมหาชนกจัดทำขึ้น เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ก่อตั้งกองทุนพระมหาชนก ทั้งนี้ ในการผลิตจะทำการเชิญนิทานสุภาษิตว่าด้วยโทษแห่งการแตกสามัคคี ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราชอุปัธยาจารย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระนิพนธ์และลงตีพิมพ์ใน ธรรมจักษุ เล่มที่ 4 ตอนที่ 12 เดือนกันยายน รัตนโกสินทรศก 117 มาจัดพิมพ์และอ่านบันทึกเสียงลงแผ่นซีดีโดยนักศึกษา ม.ขอนแก่น ทั้งนี้ หวังว่า เนื้อหาสาระจากพระนิพนธ์จะช่วยเตือนสติสังคมไทยในปัจจุบันได้บ้าง
นอกจากนี้ การจัดทำหนังสือพร้อมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ยังจัดทำขึ้นสำหรับการเผยแพร่เป็นอนุสรณ์ในวาระครบ 1 ปีวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2552 โดยผลิตจำนวน 1,000 ชุด พร้อมทำการเผยแพร่ไปยังโรงเรียนศึกษาพิเศษ (ผู้พิการทางสายตา) สถานสงเคราะห์คนชรา ตลอดจนสถานศึกษาต่างๆ ทั้งระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาทั่วประเทศ
ผศ.วิไลวรรณ กล่าวด้วยว่า ระหว่างการดำเนินงาน คณะทำงานได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ทรงภูมิทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายพราหมณ์ โดยได้รับความเมตตาจาก เจ้าพระคุณพระพรหมมุนี รองเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารให้นักศึกษาผู้สวดและอ่านบันทึกเสียงลงแผ่นซีดี เข้ากราบถวายเครื่องมนัสการเพื่อขอรับคำแนะนำการออกเสียงอ่านและสวดสำเนียงมคธ ตามแบบนิยมของวัดบวรนิเวศวิหาร กับทั้งยังได้รับความกรุณาจาก พระราชครูวามเทพมุนี (ชวิน รังสิพราหมณกุล) หัวหน้าคณะพราหมณ์หลวง ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการอ่านฉันท์ตามทำนองพราหมณ์ แก่นักศึกษาเพิ่มเติมเป็นวิทยาทาน สำหรับการเตรียมตัวฝึกหัดการอ่าน สามัคคีเภทคำฉันท์ บันทึกเสียงในโอกาสต่อไปด้วย
ด้าน น.ส.ยุพิน แสนเจ๊ก (จอย) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาที่มีโอกาสได้อ่านนิทานสุภาษิต กล่าวแสดงความรู้สึกต่อผลงานชิ้นสำคัญในชีวิต ว่า รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอ่านนิทานสุภาษิตว่า เนื่องจากไม่เคยร่วมงานแบบนี้มาก่อน แม้ตนเองไม่ใช่พุทธศาสนิกชนแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา จะต่างศาสนาหากร่วมแรงร่วมใจ สามัคคีกันทุกอย่างก็สำเร็จได้ โดยเฉพาะตนซึ่งมองไม่เห็น แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ช่วยแปลภาษาจากนิทานให้เป็นคำอ่านเพื่อที่จะทำอักษรเบรลล์ให้อ่านออกเสียงได้
“ปัญหาอุปสรรคเยอะมาก แม้จะต้องใช้ความพยายามในการอ่านนิทานสุภาษิตเรื่องนี้มากกว่าเพื่อนร่วมทีมก็ตาม แต่ก็ไม่ทำให้ท้อถอย แล้วไหนจะต้องมีเรื่องของการเว้นวรรค การสื่ออารมณ์ในการอ่านออกเสียง เวลาอ่านเราต้องคลำตัวอักษรเบรลล์ ซึ่งเราจะไม่รู้ว่าต้องเว้นวรรคตรงไหน จึงต้องใช้ความพยายามในการอ่านอย่างมาก แต่ก็ได้อาจารย์และเพื่อนๆ ช่วยเหลือ ทำให้มีกำลังใจในการทำงานมาก เห็นถึงเรื่องของความสามัคคีจริงๆ” น.ส.ยุพิน กล่าว