กทม.เร่งตรวจสอบสัตว์ปีก รับเทศกาลตรุษจีน พร้อมให้สายรัดข้อเท้ากับสัตว์ปีกที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน
นายไกรจักร แก้วนิล รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบกิจการโรงฆ่าสัตว์เขตหลักสี่ ( ลิ้ม อมร ) ร่วมกันผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.ว่า ในปัจจุบัน กทม.มีสถานประกอบกิจการประเภทฆ่าสัตว์ปีกที่ได้รับใบรับรองมาตรฐาน จำนวน 42 แห่ง เพราะทาง กทม.ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมทั้งยังส่งเสริมให้มีการปรับปรุงโครงสร้างของสถานประกอบการให้ถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชำแหละเนื้อสัตว์ปีกจำเป็นต้องแต่งกายที่มิดชิด เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนของเชื้อโรคที่มาจากเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดนกที่อาจแพร่ระบาดข้ามาสู่ตัวคนได้ ซึ่งจากการตรวจสอบสถานประกอบกิจการโรงฆ่าสัตว์ต่างได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการที่หมั่นคอยดูแลความสะอาดอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
นายไกรจักร กล่าวว่า ทั้งนี้ กทม.ยังพบว่า มีสถานประกอบกิจการประเภทฆ่าสัตว์ปีกอีกหลายแห่งที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ ซึ่ง กทม.และทางสำนักอนามัย ต้องเข้ามาดำเนินการตรวจสอบให้ถูกต้องอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ อย่างไรก็ตาม กทม.และกรมปศุสัตว์จึงได้เตรียมรองรับแผนมาตรการเพื่อป้องกันสัตว์ปีกที่ไม่ได้รับมาตรฐานโดยจัดตั้งจุดตรวจสอบคุณภาพรอบพื้นที่ กทม.จำนวน 18 จุด ก่อนที่จะนำสัตว์ปีกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ โดยจะมีเครื่องหมายสายรัดข้อเท้าให้กับสัตว์ปีกที่ผ่านการตรวจสอบจำนวน 120,000 ตัว ในช่วงระหว่างวันที่ 20-24 มกราคม ด้วย
“สำหรับร้านค้าจำหน่ายสัตว์ปีกที่ได้รับมาตรฐาน กรมปศุสัตว์จะให้โลโก้เครื่องหมายสินค้าปลอดภัย เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าสัตว์ปีกที่เลือกไปนั้นมีคุณภาพและได้รับการตรวจสอบตรงตามมาตรฐาน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ในเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้กำลังการซื้อสัตว์ปีกของผู้บริโภคจะไม่ลดลงจากปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน” รองปลัด กทม.กล่าว