ครูดีเด่นปี 1551 ครวญกรรมการประเมินวิทยฐานะที่มาจากมหาวิทยาลัย เมินผลงานเชิงประจักษ์ทั้งที่ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายและส่งผลต่อเด็กโดยตรง แต่สนใจเอกสารทางวิชาการมากกว่า ขอให้ผลที่เกิดกับเด็กและไม่ควรใช้บรรทัดฐานอาจารย์มหาวิทยาลัยในการประเมินผลงาน
นายไพบูลย์ กฤษณจักราวัฒน์ ครูโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งได้รับรางวัลคุรุสภา ประจำปี 2551 ประเภทครูผู้ปฏิบัติการสอน หรือ ครูดีเด่น กล่าวถึงการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาว่า ปัจจุบันครูจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาในการประเมินเพื่อมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ แม้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะย้ำเสมอว่า การประเมินจะเน้นที่ผลงานเชิงประจักษ์ หรือผลที่เกิดกับผู้เรียน แต่ในทางปฏิบัติคณะกรรมการประเมินก็มักจะเน้นที่ผลงานวิชาการเป็นหลัก ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่จะขอเลื่อนวิทยฐานะเกิดความท้อแท้ และเบื่อหน่ายจนไม่อยากยื่นขอวิทยฐานะอีก
“ปัญหาดังกล่าวผมได้ประสบกับตนเอง ขณะนี้ผมมีวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ และได้ยื่นขอเลื่อนวิทยฐานะเป็นครูเชี่ยวชาญ แต่ก็ไม่ผ่านทั้งที่มีผลงาน และได้รับรางวัลมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่คณะกรรมการประเมินซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาประเมินกลับไม่สนใจผลงานเหล่านั้น ซึ่งถือเป็นผลงานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน จะเน้นแต่ผลงานที่เป็นตัวอักษร เป็นงานวิจัย ซึ่งผมก็ยอมรับในธรรมชาติของอาจารย์มหาวิทยาลัยที่จะเน้นเรื่องงานวิจัย มากกว่าการคลุกคลีกับนักเรียน เมื่อมาเป็นกรรมการประเมินจึงให้ความสำคัญกับงานวิจัย มาสัมภาษณ์ว่า อะไรคือตัวแปรต้น อะไรคือตัวแปรตาม ความเชื่อมั่นคืออะไร แต่ผมก็อยากให้คณะกรรมการเข้าใจความเป็นครูในโรงเรียน และดูที่ผลงานหรือผลที่เกิดกับตัวเด็กมากกว่า ไม่ควรใช้บรรทัดฐานของอาจารย์มหาวิทยาลัยมาตัดสินครูในโรงเรียน” นายไพบูลย์กล่าว