“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” ยังไม่มั่นใจแม้เอ็กซิตโพลให้เข้าวิน ขอให้รอผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ เผย หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.เร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจทันทีตั้งแต่วันแรก พร้อมขอดูหลักฐานรถดับเพลิงหาช่องฟ้องเลิกสัญญา ด้าน “แก้วสรร” ชี้ผิดคาดว่า ปชช.จะให้บทเรียน ปชป.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยภายหลังทราบผลการสำรวจเอ็กซิตโพลว่ามีคะแนนนำผู้สมัครรายอื่นๆ ว่า เอ็กซิตโพลคือโพลประเภทหนึ่ง ซึ่งในอดีตอาจจะมีความแม่นยำ แต่ก็ยังถือว่าเป็นโพล จึงอยากจะรอให้มีการนับคะแนนเป็นที่ประจักษ์ก่อน จึงยังไม่อยากพูดว่ามีความมั่นใจในผลเลือกตั้ง แต่ไม่ว่าผลการนับคะแนนจะออกมาอย่างไรก็เป็นที่ประจักษ์ว่า พี่น้องชาวกรุงเทพได้ให้ความไว้วางใจกับตนอย่างมาก จึงขอขอบคุณทุกคะแนนที่ให้ และขอกราบเรียนว่าหากได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนจะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ว่าฯ ให้แก่ทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกเพศทุกวัย ทุกศาสนา และจะปฏิบัติหน้าที่ให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม ตนถือว่ากระบวนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น เมื่อมีการนับคะแนนเสร็จแล้วก็ต้องรับรองโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตนจึงจะถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สิ้นสุด แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรชาว กทม.ได้ให้ความไว้วางใจตน และ ปชป.อย่างมาก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ได้พยายามติดต่อกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่ว่าติดต่อลำบากจึงยังไม่ได้ติดต่อกับใครในขณะนี้ ส่วนคะแนนเสียงที่ได้น้อยกว่านายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะตนไม่ถือว่า 9 แสนคะแนนของนายอภิรักษ์เป็นของตน แต่คะแนนดังกล่าวเป็นคะแนนที่ชาว กทม.มอบให้ผู้ว่าฯ อภิรักษ์จึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้
สำหรับนโยบายที่จะเริ่มดำเนินการในทันทีหากผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจนแล้วนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ที่จะเริ่มทันทีคือพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยวันแรกที่เข้าทำงานจะเชิญปลัด กทม.เข้ามา เพื่อดูว่าจะสามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างไร และจะเชิญประธานสภา กทม.มาหารือเรื่องเงินคงคลังเพื่ออัดฉีดสู่ระบบเศรษฐกิจ และ เรื่องที่3 จะเชิญผู้อำนวยการเขตทุกคนมาสั่งการหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ค้ารายย่อย รวมถึงเรื่องความปลอดภัยการติดไฟให้แสงสว่างในพื้นที่ต่างๆ
ต่อข้อถามว่า จะดำเนินการเรื่องปัญหารถดับเพลิงอย่างไรต่อไป ผู้สมัครจาก ปชป. กล่าวว่า จะขอดูหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเพียงพอจะฟ้องยกเลิกสัญญาหรือไม่ ส่วนเรื่องรถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ทีจะหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่าจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งความหนักใจดยส่วนตัวแล้วไม่มีเรื่องอะไร เพราะตนมีจุดยืนชัดเจน ว่าจะต้องร่วมมือกับภาครัฐทุกฝ่ายที่จะดำเนินคดีเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับ กทม.ทั้งหมด
**“แก้วสรร” เสียดายคนกรุงไม่ให้บทเรียนปชป.
ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครหมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯ ใหม่ กล่าวว่า ขอขอบคุณในทุกคะแนนเสียง ทุกเสียงที่ได้เป็นกำลังใจ ส่วนเรื่องเงินทองที่บริจาคมาเกินกว่ารายจ่ายที่ใช้ไปประมาณ 4-5 แสน จะทำเป็นมูลนิธิกรุงเทพฯใหม่ และงานส่วนรวมของ กทม.ที่จะทำได้ในภาคประชาชนก็จะใช้เงินตัวนี้เป็นทุนในการจัดกิจกรรมต่อไป
“ในการหาเสียงครั้งนี้ ผมคิดว่า ความสับสนที่สร้างขึ้นในการหาเสียงไม่พึงประสงค์ คือ การที่บอกว่ามีพรรคใดเป็นรัฐบาลแล้ว ต้องมีผู้ว่าฯ จากพรรคนั้น ทำให้การเมืองท้องถิ่นแยกไม่ขาดจากการเมืองใหญ่ แต่ผมจะไม่ดึงดันว่าให้เลือกพรรคอิสระ เพราะการสังกัดพรรคหรือไม่สังกัดพรรคไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้สมัครมีความอิสระในการทำงานหรือไม่ ซึ่งน่าเสียดายที่ถูกทำให้สับสน ซึ่งผลที่ออกมานั้นตอนแรกคิดว่าประชาชนจะให้บทเรียนกับ ปชป.จากการบริหารงานที่ผิดพลาด แต่ประชาชนก็ไม่ได้ให้บทเรียน ซึ่งก็ต้องหาคำอธิบายต่อไป”นายแก้วสรร กล่าว
**“ปลื้ม” ยอมรับพ่ายขาดคุณชาย
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครหมายเลข 8 สังกัดอิสระ กล่าวว่า ตื้นตันใจกับทุกคะแนนที่ได้รับ แต่ก็ยอมรับผลที่ออกมา ไม่คิดว่าจะถูกทิ้งห่าง แต่ผลเอ็กซิตโพลที่ออกมา แม้จะนำคะแนนของตนรวมกับของนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยแล้วก็ยังห่างกันอยู่ แสดงว่า ปชป.ยังมีฐานเสียงที่ดีอยู่มาก อย่างไรก็ตาม อนาคตทางการเมืองยังไม่ได้เทใจว่าจะไปอยู่กับพรรคไหน ซึ่งใน 1-2 ปีข้างหน้า ตนจะสร้างฐานะทางสังคม สะสมรายได้ และประสบการณ์เพื่อจะได้เดินเข้าสู่สนามการเมืองต่อไป
“แซม” รอลุ้นผลเป็นทางการ ลั่นโชคดีไม่ยึดติดหากแพ้เลือกตั้ง
นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ แซม ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบผลเอ็กซิตโพลจากสำนักต่างๆ ซึ่งคงต้องรอลุ้นผลอย่างเป็นทางการก่อนว่าคะแนนจะเพียงพอให้ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ซึ่งไม่ว่าผลคะแนนจะออกมาอย่างไร เนื่องจากตนเป็นคนที่ไม่ยึดมั่น ถือมั่นอยู่แล้ว เป็นคนง่ายๆ ไม่ยึดติด จะทำอะไรก็สุขใจในสิ่งที่ทำ จึงทำทุกอย่างเต็ม 100% รวมทั้งเคารพการตัดสินใจของประชาชน
“หากคะแนนเอ็กซิตโพลของตนอยู่ในอันดับ 2 ตามหลัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็พร้อมที่จะแสดงความยินดีหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ และที่สำคัญ ต้องขอกราบขอบคุณคะแนนเสียงทุกคะแนน ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ถือว่าเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีการให้ร้าย หรือคิดไม่ดีต่อกัน” นายยุรนันท์ กล่าว
นายยุรนันท์ กล่าวด้วยว่า แม้จะแพ้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็คงไม่ได้เกิดมาจากการที่พรรคไม่ให้การสนับสนุน อาจเกิดมาจากหลายสาเหตุทั้งจากนโยบาย และตัวผู้สมัคร จากนี้คงจะต้องมาวิเคราะห์จุดอ่อน ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยภายหลังทราบผลการสำรวจเอ็กซิตโพลว่ามีคะแนนนำผู้สมัครรายอื่นๆ ว่า เอ็กซิตโพลคือโพลประเภทหนึ่ง ซึ่งในอดีตอาจจะมีความแม่นยำ แต่ก็ยังถือว่าเป็นโพล จึงอยากจะรอให้มีการนับคะแนนเป็นที่ประจักษ์ก่อน จึงยังไม่อยากพูดว่ามีความมั่นใจในผลเลือกตั้ง แต่ไม่ว่าผลการนับคะแนนจะออกมาอย่างไรก็เป็นที่ประจักษ์ว่า พี่น้องชาวกรุงเทพได้ให้ความไว้วางใจกับตนอย่างมาก จึงขอขอบคุณทุกคะแนนที่ให้ และขอกราบเรียนว่าหากได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนจะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ว่าฯ ให้แก่ทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกเพศทุกวัย ทุกศาสนา และจะปฏิบัติหน้าที่ให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม ตนถือว่ากระบวนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น เมื่อมีการนับคะแนนเสร็จแล้วก็ต้องรับรองโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตนจึงจะถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สิ้นสุด แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรชาว กทม.ได้ให้ความไว้วางใจตน และ ปชป.อย่างมาก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ได้พยายามติดต่อกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่ว่าติดต่อลำบากจึงยังไม่ได้ติดต่อกับใครในขณะนี้ ส่วนคะแนนเสียงที่ได้น้อยกว่านายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะตนไม่ถือว่า 9 แสนคะแนนของนายอภิรักษ์เป็นของตน แต่คะแนนดังกล่าวเป็นคะแนนที่ชาว กทม.มอบให้ผู้ว่าฯ อภิรักษ์จึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้
สำหรับนโยบายที่จะเริ่มดำเนินการในทันทีหากผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจนแล้วนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ที่จะเริ่มทันทีคือพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยวันแรกที่เข้าทำงานจะเชิญปลัด กทม.เข้ามา เพื่อดูว่าจะสามารถเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างไร และจะเชิญประธานสภา กทม.มาหารือเรื่องเงินคงคลังเพื่ออัดฉีดสู่ระบบเศรษฐกิจ และ เรื่องที่3 จะเชิญผู้อำนวยการเขตทุกคนมาสั่งการหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ค้ารายย่อย รวมถึงเรื่องความปลอดภัยการติดไฟให้แสงสว่างในพื้นที่ต่างๆ
ต่อข้อถามว่า จะดำเนินการเรื่องปัญหารถดับเพลิงอย่างไรต่อไป ผู้สมัครจาก ปชป. กล่าวว่า จะขอดูหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเพียงพอจะฟ้องยกเลิกสัญญาหรือไม่ ส่วนเรื่องรถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ทีจะหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่าจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งความหนักใจดยส่วนตัวแล้วไม่มีเรื่องอะไร เพราะตนมีจุดยืนชัดเจน ว่าจะต้องร่วมมือกับภาครัฐทุกฝ่ายที่จะดำเนินคดีเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับ กทม.ทั้งหมด
**“แก้วสรร” เสียดายคนกรุงไม่ให้บทเรียนปชป.
ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครหมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯ ใหม่ กล่าวว่า ขอขอบคุณในทุกคะแนนเสียง ทุกเสียงที่ได้เป็นกำลังใจ ส่วนเรื่องเงินทองที่บริจาคมาเกินกว่ารายจ่ายที่ใช้ไปประมาณ 4-5 แสน จะทำเป็นมูลนิธิกรุงเทพฯใหม่ และงานส่วนรวมของ กทม.ที่จะทำได้ในภาคประชาชนก็จะใช้เงินตัวนี้เป็นทุนในการจัดกิจกรรมต่อไป
“ในการหาเสียงครั้งนี้ ผมคิดว่า ความสับสนที่สร้างขึ้นในการหาเสียงไม่พึงประสงค์ คือ การที่บอกว่ามีพรรคใดเป็นรัฐบาลแล้ว ต้องมีผู้ว่าฯ จากพรรคนั้น ทำให้การเมืองท้องถิ่นแยกไม่ขาดจากการเมืองใหญ่ แต่ผมจะไม่ดึงดันว่าให้เลือกพรรคอิสระ เพราะการสังกัดพรรคหรือไม่สังกัดพรรคไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้สมัครมีความอิสระในการทำงานหรือไม่ ซึ่งน่าเสียดายที่ถูกทำให้สับสน ซึ่งผลที่ออกมานั้นตอนแรกคิดว่าประชาชนจะให้บทเรียนกับ ปชป.จากการบริหารงานที่ผิดพลาด แต่ประชาชนก็ไม่ได้ให้บทเรียน ซึ่งก็ต้องหาคำอธิบายต่อไป”นายแก้วสรร กล่าว
**“ปลื้ม” ยอมรับพ่ายขาดคุณชาย
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครหมายเลข 8 สังกัดอิสระ กล่าวว่า ตื้นตันใจกับทุกคะแนนที่ได้รับ แต่ก็ยอมรับผลที่ออกมา ไม่คิดว่าจะถูกทิ้งห่าง แต่ผลเอ็กซิตโพลที่ออกมา แม้จะนำคะแนนของตนรวมกับของนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยแล้วก็ยังห่างกันอยู่ แสดงว่า ปชป.ยังมีฐานเสียงที่ดีอยู่มาก อย่างไรก็ตาม อนาคตทางการเมืองยังไม่ได้เทใจว่าจะไปอยู่กับพรรคไหน ซึ่งใน 1-2 ปีข้างหน้า ตนจะสร้างฐานะทางสังคม สะสมรายได้ และประสบการณ์เพื่อจะได้เดินเข้าสู่สนามการเมืองต่อไป
“แซม” รอลุ้นผลเป็นทางการ ลั่นโชคดีไม่ยึดติดหากแพ้เลือกตั้ง
นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ แซม ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบผลเอ็กซิตโพลจากสำนักต่างๆ ซึ่งคงต้องรอลุ้นผลอย่างเป็นทางการก่อนว่าคะแนนจะเพียงพอให้ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ซึ่งไม่ว่าผลคะแนนจะออกมาอย่างไร เนื่องจากตนเป็นคนที่ไม่ยึดมั่น ถือมั่นอยู่แล้ว เป็นคนง่ายๆ ไม่ยึดติด จะทำอะไรก็สุขใจในสิ่งที่ทำ จึงทำทุกอย่างเต็ม 100% รวมทั้งเคารพการตัดสินใจของประชาชน
“หากคะแนนเอ็กซิตโพลของตนอยู่ในอันดับ 2 ตามหลัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็พร้อมที่จะแสดงความยินดีหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ และที่สำคัญ ต้องขอกราบขอบคุณคะแนนเสียงทุกคะแนน ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ถือว่าเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีการให้ร้าย หรือคิดไม่ดีต่อกัน” นายยุรนันท์ กล่าว
นายยุรนันท์ กล่าวด้วยว่า แม้จะแพ้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็คงไม่ได้เกิดมาจากการที่พรรคไม่ให้การสนับสนุน อาจเกิดมาจากหลายสาเหตุทั้งจากนโยบาย และตัวผู้สมัคร จากนี้คงจะต้องมาวิเคราะห์จุดอ่อน ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น