ทางการจีนช่วยไทยทั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเวชภัณฑ์ยาสมุนไพร มูลค่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยอดผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวทั้งหมด 86 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 21 ราย ผู้มีอาการหนักนอนไอซียู 38 ราย
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ. ตรวจเยี่ยมซานติก้า ผับ ถนนเอกมัย ซอย 9 เพื่อดูสภาพพื้นที่เกิดเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 59 ราย บาดเจ็บ 229 ราย พร้อมกล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมสภาพที่ซานติก้าผับ ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ มีหน้าต่างหลายบาน แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ เนื่องจากมีลูกกรงเหล็กดัดและมีประตูเข้าออกเพียงทางเดียว หากเปิดหน้าต่างใช้การเพิ่มขึ้นอีก คาดว่าจะไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ หากได้มีการซ้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉินให้กับพนักงานประจำผับ จะสามารถให้การช่วยเหลือผู้ใช้บริการได้อย่างทันท่วงทีและเป็นระบบมากขึ้น โดยหากพนักงานทุกคนรู้หลักการช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ โดยเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ตัว ชุบน้ำและปิดปาก จมูก จะสามารถป้องกันการสูดควันได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
นายมานิต กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่ทางการจีนได้ยื่นมือที่จะช่วยเหลือไทยในเรื่องเวชภัณฑ์ยาสมุนไพร รักษาผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกมูลค่าประมาณ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากไทยตอบรับในเบื้องต้นทางการจีนจะส่งเวชภัณฑ์ยาและแพทย์ที่มีความชำนาญรักษาบาดแผลจากไฟไหม้มาให้คำปรึกษาทันที ขณะนี้ไทยยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้เชี่ยวชาญของไทย ไทยเคยส่งทีมแพทย์ไทยไปช่วยรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนเมื่อปีที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากทีมแพทย์ไทยมีความพร้อมในการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บได้อย่างดี
ด้าน นพ.จักรธรรม กล่าวว่า ผลจากเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 229 ราย ล่าสุดนอนรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด 86 ราย เป็นชาย 35 ราย ที่เหลือเป็นหญิง ในจำนวนนี้ มีอาการสาหัส นอนไอซียู ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 38 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 17 ราย ซึ่งในการดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ ซึ่งส่วนใหญ่มีบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกาย จะเน้นการป้องกันการติดเชื้อ ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก ทั้งนี้ มีชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 41 ราย ในจำนวนนี้ นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 21 ราย ดังนี้ อยู่ที่ รพ.จุฬาฯ รพ.รามาธิบดี รพ.คามิลเลียน รพ.ปิยะเวท รพ.กล้วยน้ำไท แห่งละ 1 ราย รพ.บำรุงราษฎร์ 4 ราย รพ.กรุงเทพ 6 ราย รพ.สมิติเวชสุขุมวิท 4 ราย และ รพ.วิภาราม 2 ราย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะนำรายชื่อของผู้บาดเจ็บทั้งหมด และผู้เสียชีวิตซึ่งมี 59 ราย ซึ่งขณะนี้สามารถตรวจสอบชื่อได้แล้ว 23 ราย ขึ้นเว็บไซต์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ประชาชนสามารถตรวจสอบที่ http:// narendhorn.moph.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ. ตรวจเยี่ยมซานติก้า ผับ ถนนเอกมัย ซอย 9 เพื่อดูสภาพพื้นที่เกิดเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 59 ราย บาดเจ็บ 229 ราย พร้อมกล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมสภาพที่ซานติก้าผับ ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ มีหน้าต่างหลายบาน แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ เนื่องจากมีลูกกรงเหล็กดัดและมีประตูเข้าออกเพียงทางเดียว หากเปิดหน้าต่างใช้การเพิ่มขึ้นอีก คาดว่าจะไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ หากได้มีการซ้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉินให้กับพนักงานประจำผับ จะสามารถให้การช่วยเหลือผู้ใช้บริการได้อย่างทันท่วงทีและเป็นระบบมากขึ้น โดยหากพนักงานทุกคนรู้หลักการช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ โดยเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ตัว ชุบน้ำและปิดปาก จมูก จะสามารถป้องกันการสูดควันได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
นายมานิต กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่ทางการจีนได้ยื่นมือที่จะช่วยเหลือไทยในเรื่องเวชภัณฑ์ยาสมุนไพร รักษาผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกมูลค่าประมาณ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากไทยตอบรับในเบื้องต้นทางการจีนจะส่งเวชภัณฑ์ยาและแพทย์ที่มีความชำนาญรักษาบาดแผลจากไฟไหม้มาให้คำปรึกษาทันที ขณะนี้ไทยยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้เชี่ยวชาญของไทย ไทยเคยส่งทีมแพทย์ไทยไปช่วยรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนเมื่อปีที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากทีมแพทย์ไทยมีความพร้อมในการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บได้อย่างดี
ด้าน นพ.จักรธรรม กล่าวว่า ผลจากเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 229 ราย ล่าสุดนอนรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด 86 ราย เป็นชาย 35 ราย ที่เหลือเป็นหญิง ในจำนวนนี้ มีอาการสาหัส นอนไอซียู ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 38 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 17 ราย ซึ่งในการดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ ซึ่งส่วนใหญ่มีบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกาย จะเน้นการป้องกันการติดเชื้อ ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก ทั้งนี้ มีชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 41 ราย ในจำนวนนี้ นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 21 ราย ดังนี้ อยู่ที่ รพ.จุฬาฯ รพ.รามาธิบดี รพ.คามิลเลียน รพ.ปิยะเวท รพ.กล้วยน้ำไท แห่งละ 1 ราย รพ.บำรุงราษฎร์ 4 ราย รพ.กรุงเทพ 6 ราย รพ.สมิติเวชสุขุมวิท 4 ราย และ รพ.วิภาราม 2 ราย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะนำรายชื่อของผู้บาดเจ็บทั้งหมด และผู้เสียชีวิตซึ่งมี 59 ราย ซึ่งขณะนี้สามารถตรวจสอบชื่อได้แล้ว 23 ราย ขึ้นเว็บไซต์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ประชาชนสามารถตรวจสอบที่ http:// narendhorn.moph.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง