ดีเบตผู้ว่าฯ ร้อน “ลีน่า จัง” คุ้ยเรื่องส่วนตัว “สุขุมพันธุ์” ตัวแทน ปชป.แผ่เมตตาปัดร่วมเวที

ดีเบต ผู้ว่าฯ กทม.ที่ มรภ.พระนคร “สุขุมพันธุ์” ไม่ร่วมเวที รีบกลับทันที เหตุเพราะผู้สมัครคนอื่นยกเรื่องส่วนตัวมาโจมตี ด้าน กกต.เผย สามารถดำเนินการสอบสวนผู้กล่าวพาดพิงได้ เนื่องจากเป็นเหตุที่ กกต.ประสบเอง จึงไม่ต้องมีผู้เสียหายร้องเรียน

วันที่ 29 ธันวาคม เครือข่ายการมีส่วนร่วมภาคประชาชน จัดโครงการ “รวมพลังสามัคคีเลือกคนดีเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 52” โดยการสนับสนุนของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มีผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.หลายคนเดินทางร่วมดีเบต ได้แก่ นายแก้วสรร อติโพธิ นางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นายกงจักร ใจดี นายอุดม วิบูลเทพาชาติ นายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร โดยกำหนดเวลาให้ผู้สมัครกล่าวคนละ 5 นาที

นายแก้วสรร ได้ขึ้นเวทีเป็นคนแรก กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นของประชาชน ประชาชนจึงต้องเข้ามามีส่วนร่วมดูแลให้เป็นไปโดยไม่ทุจริต ซื้อสิทธิขายเสียง การเลือกตั้งทุกครั้งจะมีคนเลวๆ ที่จ้องโกงการเลือกตั้ง ดังนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกัน ซึ่งข้อมูลขณะนี้รู้ว่ามีความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ เช่น อาจจะมีการแซะคนออกจากบ้านเพื่อไปเลือก การลงสมัครครั้งนี้ไม่ได้มาของานทำ เพราะไม่ได้ตกงาน และมีเงินเดือน

“ได้ไปแจกเอกสารแนะนำตัวที่หน้าห้างดังแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง ถูกไล่อย่างกับหมูกับหมา ทั้งที่ขอแค่พื้นที่ทางเข้าเพื่อสื่อสารกับประชาชน และไม่ได้มาของานทำ”

นายแก้วสรร กล่าวและว่า ตำแหน่งผู้ว่าฯ เป็นภารกิจไม่ใช่เพื่ออำนาจหรือประโยชน์ แต่ต้องการมาขอจับมือประชาชนในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ในวันเลือกตั้ง 11 มกราคม 2552 ไม่ว่าประชาชนจะเลือกใคร ขอให้ไปใช้สิทธิและอย่าเลือกคนที่จำนวนป้าย แต่ขอให้เลือกคนที่จะมาแก้ปัญหาให้

นายแก้วสรร กล่าวอีกว่า ในวันเลือกตั้ง หาก กกต.และภาคประชาชนร่วมกันตรึงกำลังอย่างดีในการตรวจสอบทุจริต ซื้อสิทธิขายเสียง คิดว่า จะรับมือได้ พร้อมกับกล่าวแสดงความผิดหวัง การทำงานของ กกต.ว่า กกต.ต่างประเทศจะมีหน้าที่นำข้อมูลของผู้สมัครทุกคนมาเผยแพร่ให้ถึงประชาชน แต่ กกต.บ้านเรา มีหน้าที่คิดแค่ว่านับคะแนนเท่านั้น

จากนั้น นางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง ขึ้นดีเบตต่อ ได้เปิดประเด็นพาดพิงถึงเรื่องส่วนตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ซึ่งเดินทางมาถึงภายหลัง ไม่เข้าห้องดีเบต และเดินทางกลับทันที ขณะที่บนเวทีดีเบตยังมีผู้สมัครคนอื่นขึ้นกล่าวนโยบายของแต่ละคนอย่างสั้นๆ จนเสร็จสิ้นพิธี โดยเรื่องที่นางลีนากล่าวพาดพิงนั้น เป็นกรณีที่ นางวรภาทิพย์ บริพัตร เข้าขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ พันเอก ม.ร.ว. วโรรส ม.ล. วรภานัน และ ม.ล.ภูมิอาชว์ บริพัตร น้องชายและหลานแท้ๆ ของผู้สมัครคนดังกล่าว ซึ่งถูกผู้สมัครคนนี้ไล่ออกจากที่พักย่านสุขุมวิท โดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน ทำให้ต้องออกมาอยู่ทาวเฮาส์หลังเล็กๆ

ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ รองเลขาธิการ กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ นางลีน่า จัง ขึ้นดีเบตกล่าวพาดพิงถึงผู้สมัครคนอื่น พร้อมกับนำบุคคลที่อ้างว่าเป็นญาติของผู้สมัครที่กล่าวถึงมาเปิดตัวด้วย ในฐานะที่ตนเป็น กกต.ที่ประสบเหตุเองจะทำบันทึกรายงานไปยัง กกต.เพื่อทำสำนวนและสอบสวนข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่ นางลีน่า จัง เอ่ยถึงเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 57(5) ที่ห้ามผู้สมัครหรือผู้ใดพูดใส่ร้ายหลอกลวงผู้สมัครคนอื่นหรือไม่ ต้องมีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ สำหรับโทษตามความผิดนี้ ผู้สมัครที่กล่าวพาดพิง จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะมีผลในการเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ด้วย และมีโทษทางอาญาจำคุก 1-10 ปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นเหตุที่ กกต.ประสบเอง จึงไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหายร้องเรียน กกต.สามารถดำเนินการสืบสวนสอบสวนได้เลย ในส่วนของผู้ถูกพาดพิงก็สามารถจะดำเนินการฟ้องร้องเรื่องหมิ่นประมาทได้ แต่ถ้าหากข้อมูลที่ถูกนำมากล่าวพาดพิงเป็นความจริงก็จะไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรานี้

สำหรับโครงการรวมพลังสามัคคีเลือกคนดีเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 52 วันนี้ มีผู้แทนจาก ป.ป.ช.ภาคประชาชน เครือข่ายประชากรเพื่อการเลือกตั้ง ยุว กกต.เป็นต้น ร่วมกันยืนยันว่าจะช่วยกันตรวจสอบการเลือกตั้งผู้ว่าฯ 11 ม.ค.2552 ให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ขณะนี้เครือข่ายภาคประชาชนได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบทั้ง 50 เขตของแต่ละองค์กรแล้ว และยังไม่พบความผิดปกติ แต่จะจับตาการหาเสียงในช่วงเทศกาลปีใหม่ และวันเด็ก อย่างเข้มข้น

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงกรณีที่ไม่เข้าร่วมเวทีดีเบตของเครือข่ายการมีส่วนร่วมภาคประชาชน ที่ มรภ.พระนคร ในช่วงเช้าว่า ผู้จัดไม่สามารถควบคุมเวทีให้เป็นการอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนโยบายในการอาสาลงสมัครผู้ว่าฯ ได้ แต่ปล่อยให้ผู้สมัครบางคนนำเรื่องส่วนตัวมาโจมตี ซึ่งตนจะไม่ตอบโต้ เนื่องจากไม่ทะเลาะกับใคร

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ไม่เสียกำลังใจ เพราะแยกแยะระหว่างการทำหน้าที่ เรื่องส่วนตัว กับเรื่องการเมืองได้ และจะเดินหน้าหาเสียงต่อไป ส่วนผู้จัดที่จะเชิญตนขึ้นเวทีดีเบตก็ไม่มีปัญหา แต่ขอให้ควบคุมเวทีได้ เข้าใจเหตุการณ์ดีว่า เมื่อตนมีคะแนนนำในโพล ก็ต้องมีเสียงนกเสียงกาบ้าง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นขอให้สื่อมวลชนนำเสนอด้วยวิจารณญาณและระมัดระวัง เพราะข้อมูลที่ได้รับไป ไม่มีความจริงใดๆ ทั้งสิ้น ตนมีหลักฐานพร้อมทุกเรื่อง ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีคดีความกับสื่อมวลชน

“ผมไม่ห่วงเพราะรู้อยู่แล้วว่ามีคนจองเวรจองกรรมผมมานานแล้ว ผมแผ่เมตตาลูกเดียว เพราะเขาทำมาหลายปีแล้ว แต่ผมก็ไม่สามารถให้ในสิ่งที่เขาเรียกร้องขอมาโดยตลอดได้ เพราะพ่อผมสั่งไว้ว่า ไม่ให้ให้ ผมรักพ่อของผมที่สุดในโลก” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ทางพรรคก็เป็นห่วง แต่ตนได้บอกไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ควรไปใช้เวลาช่วยเหลือบ้านเมือง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าตนเลวร้ายจริง ก็คงจะไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะและอยู่ในการเมืองมาได้กว่า 12 ปีแล้ว เพราะบ้านเมืองก็มีระบบตรวจสอบเป็นหูเป็นตาจำนวนมาก