“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” เปิดวาระธนบุรี ชูสร้างความเจริญทัดเทียมเขตพระนคร เร่งส่วนต่อขยาย จุดต่อเชื่อมบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน เพิ่มเส้นทางจราจร พร้อมเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย “เอธัส” เผย ช่วงโค้งสุดท้ายจะใช้วิธีขึ้นรถแห่วันละ 16 เขต “แก้วสรร” ลุยสนามหลวง 2 หาเสียงปรับทำเลค้าขายดีขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 จากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าช้าง ฝั่ง กทม.ไปยังท่าวัดระฆัง เพื่อไหว้พระที่วัดระฆังโฆสิตาราม และเคาะระฆังรายเพื่อความเป็นสิริมงคล ว่า วันนี้เป็นวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กษัตริย์ครองกรุงธนบุรี และหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.พร้อมเปิดวาระธนบุรีโดยจะพัฒนาฝั่งธนบุรีให้มีความเจริญทัดเทียมกับฝั่งพระนคร ผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม เช่น จะเร่งสร้างส่วนต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส จากวงเวียนใหญ่-บางหว้า ให้เสร็จภายใน 2 ปี จะขยายระบบมวลชนโดยเชื่อมต่อบีทีเอส กับรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อลดความซ้ำซ้อนเรื่องเงินลงทุน เพิ่มถนนหนทางเส้นทางจราจรของฝั่งธนบุรีให้มากขึ้น
นอกจากนี้ จะส่งเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อเสริมรายได้แก่ชาวฝั่งธนฯ ที่ปัจจุบันมีตลาดน้ำหลายแห่ง เส้นทางคลองท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งคลองบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของไทย วัดที่เกี่ยวข้องประวัติศาสตร์ พัฒนาเกาะรัตนโกสินทร์ในส่วนที่อยู่ในฝั่งธนบุรี ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์เท่าที่ควร จะ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย รวมทั้งจะเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรด้วยการรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่ในฝั่งธนบุรีด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า การมาไหว้พระวันนี้ ตนได้อธิษฐานขอให้สีเหลือง-สีแดง รักกัน สามัคคีกัน และรวมกันกลายเป็นสีส้ม
วันเดียวกัน นายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่หาเสียงแนะนำตัวกับประชาชนบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยกล่าวว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ ปัญหาแรกที่จะต้องแก้ไข คือ เรื่องการอยู่ร่วมกันของคนกรุงเทพฯ จึงเน้นอยู่เสมอทุกครั้งเวลาหาเสียง เพราะการที่ในกรุงเทพฯมีประชากรมากถึง 12 ล้านคน แต่ละคนมีพิ้นเพ อาชีพต่างกัน เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงต้องการเห็นคนกรุงเทพฯอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ท้อหรือไม่เมื่อเห็นคะแนนโพล นายเอธัส กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกท้อ ต้องคิดว่า การเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ เป็นการทำเพื่อส่วนรวม ต้องอย่าไปท้อ หากได้เป็นคนส่วนรวมก็ได้ประโยชน์แต่หากไม่ได้เป็นก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ดังนั้น จึงไม่รู้สึกท้อแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ ยังกล่าวว่า จะใช้เวลาในโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเร่งพบปะประชาชนให้มากที่สุด โดยใช้วิธีขึ้นรถแห่วันละ 16 เขต จะแบ่งรถออกเป็น 4 คัน คันละ 4 เขต เพื่อเร่งสร้างปฏิสัมพันธ์กับประชาชนให้รู้จักตัวตนของตนเองมากขึ้น
ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่หาเสียงแนะนำตัวกับประชาชนที่บริเวณตลาดนัดสนามหลวง 2 โดยมีหลานๆ มาช่วยหาเสียงในวันนี้ด้วย นายแก้วสรร ชูนโยบาย จะปรับปรุงทำเลบริเวณสนามหลวง 2 ให้มีการจราจรเข้า-ออกได้สะดวกมากขึ้น เพราะการเลือกทำเลในสถานที่ดังกล่าว ถือว่าเป็นตัวอย่างการเลือกทำเลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้มีผู้มาใช้บริการไม่มากเท่าที่ควร
ทั้งนี้ ตลอดการเดินหาเสียงมีพ่อค้าแม่ค้าร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับนายแก้วสรร ว่า ทำให้ขายของไม่ได้ จึงขาดทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้น หาก กทม.มีโครงการที่จะทำตลาดนัดจะต้องศึกษาเรื่องทำเลให้ดีกว่านี้ ส่วนอีกเรื่องที่ต้องแก้ไข คือ เรื่องสถานที่จอดรถ การปล่อยให้เอกชนเข้ามาบริหารเรื่องการจอดรถ แต่ไม่มีการจัดการให้เป็นระเบียบ ปล่อยให้รถพ่อค้าแม่ค้ามาแย่งที่จอดรถ ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการไม่มีที่จอด จึงต้องรีบแก้ไขปัญหาส่วนนี้
นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า มีแนวคิดที่จะกระจายตลาดที่อยู่ใจกลางเมือง อย่าง ตลาดนัดจตุจักร ตลาดคลองถม สวนลุมไนท์บาซาร์ ให้ออกไปยังส่วนอื่นของกรุงเทพฯ เพื่อลดการเดินทางของประชาชนให้น้อยลง และลดปัญหาการรวมศูนย์ในกลางเมืองกรุงเทพฯ พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่จะงดออกหาเสียง เนื่องจากไม่อยากไปรบกวนประชาชน โดยจะเริ่มออกหาเสียงอีกครั้งในวันที่ 2 มกราคม 2552 เป็นต้นไป
