สอศ.เร่งหารือ เลขา ก.ค.ศ.สางปัญหาเลื่อนวิทยฐานะครู สอศ.มี 2 ระดับ ครูสอนต่ำกว่าปริญญาตรี กับ ปริญญาตรี แถมครูส่วนใหญ่เก่งปฏิบัติ ไม่ถนัดเขียน
นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ปัจจุบันครูของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีปัญหาการเลื่อนวิทยฐานะ เพราะครูอาชีวศึกษาแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1.ผู้ที่สอนต่ำกว่าระดับปริญญา ก็ขอกำหนดตำแหน่งเป็นครูชำนาญการ ครูชำนาญพิเศษ ครูเชี่ยวชาญและครูเชี่ยวชาญพิเศษ 2.ผู้ที่สอนระดับปริญญาตรีขึ้นไป จะใช้ตำแหน่งที่เป็นอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รองศาสตราจารย์ (รศ.) และศาสตราจารย์(ศ.) ได้ ทั้งนี้ การเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูสังกัด สอศ.ยังอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ สำหรับผู้ที่สอนระดับปริญญาตรีขึ้นไปนั้น ก.ค.ศ.อนุมัติให้ใช้หลักเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เช่นเดียวกับอาจารย์ของสถาบันการพลศึกษาสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อาจารย์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม
อย่างไรก็ดี สอศ.กำลังดูว่า มีเรื่องใดต้องปรับปรุงให้เหมาะสมกับการบริหารงานบุคคล เช่น การเข้าสู่ตำแหน่งครู ผู้บริหาร รวมทั้งการเลื่อนวิทยฐานะของครูอาชีวศึกษา ซึ่งวิธีการเรียนการสอนจะเน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ดังนั้น ต้องมาดูว่ากระบวนการเขียนผลงานวิชาการในเชิงปฏิบัติควรมีลักษณะอย่างไร เพื่อสะท้อนให้ถึงความสามารถในการสอนของครู ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง ครูอาชีวศึกษาส่วนใหญ่ทำวิจัยไม่เป็น ไม่ถนัดเขียนผลงานวิชาการ แต่สอนดี สามารถปฏิบัติได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ตนจะหารือกับนายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
นายเฉลียว กล่าวว่า ขณะนี้มีครูอาชีวศึกษายื่นขอเข้ารับการประเมินวิทยฐานะ 2,000 คน ซึ่ง สอศ.ได้เสนอต่อ ก.ค.ศ.ให้แบ่งพื้นที่การรับผลงานและประเมินวิทยฐานะของครูอาชีวศึกษาออกเป็น 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือที่วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ภาคใต้ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลาและภาคกลางที่วิทยาลัยเทคนิคดุสิต เพื่อให้คณะกรรมการจะประเมินครูอาชีวศึกษาจากในพื้นที่ และนำผลประเมินมาเสนอขออนุมัติต่อคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อให้มีความเหมาะสมและรวดเร็วขึ้น
นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ปัจจุบันครูของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีปัญหาการเลื่อนวิทยฐานะ เพราะครูอาชีวศึกษาแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1.ผู้ที่สอนต่ำกว่าระดับปริญญา ก็ขอกำหนดตำแหน่งเป็นครูชำนาญการ ครูชำนาญพิเศษ ครูเชี่ยวชาญและครูเชี่ยวชาญพิเศษ 2.ผู้ที่สอนระดับปริญญาตรีขึ้นไป จะใช้ตำแหน่งที่เป็นอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รองศาสตราจารย์ (รศ.) และศาสตราจารย์(ศ.) ได้ ทั้งนี้ การเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูสังกัด สอศ.ยังอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ สำหรับผู้ที่สอนระดับปริญญาตรีขึ้นไปนั้น ก.ค.ศ.อนุมัติให้ใช้หลักเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เช่นเดียวกับอาจารย์ของสถาบันการพลศึกษาสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อาจารย์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม
อย่างไรก็ดี สอศ.กำลังดูว่า มีเรื่องใดต้องปรับปรุงให้เหมาะสมกับการบริหารงานบุคคล เช่น การเข้าสู่ตำแหน่งครู ผู้บริหาร รวมทั้งการเลื่อนวิทยฐานะของครูอาชีวศึกษา ซึ่งวิธีการเรียนการสอนจะเน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ดังนั้น ต้องมาดูว่ากระบวนการเขียนผลงานวิชาการในเชิงปฏิบัติควรมีลักษณะอย่างไร เพื่อสะท้อนให้ถึงความสามารถในการสอนของครู ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง ครูอาชีวศึกษาส่วนใหญ่ทำวิจัยไม่เป็น ไม่ถนัดเขียนผลงานวิชาการ แต่สอนดี สามารถปฏิบัติได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ตนจะหารือกับนายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
นายเฉลียว กล่าวว่า ขณะนี้มีครูอาชีวศึกษายื่นขอเข้ารับการประเมินวิทยฐานะ 2,000 คน ซึ่ง สอศ.ได้เสนอต่อ ก.ค.ศ.ให้แบ่งพื้นที่การรับผลงานและประเมินวิทยฐานะของครูอาชีวศึกษาออกเป็น 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือที่วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ภาคใต้ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลาและภาคกลางที่วิทยาลัยเทคนิคดุสิต เพื่อให้คณะกรรมการจะประเมินครูอาชีวศึกษาจากในพื้นที่ และนำผลประเมินมาเสนอขออนุมัติต่อคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อให้มีความเหมาะสมและรวดเร็วขึ้น
