“หมอชูชัย” ขอบคุณพันธมิตรฯ ปกป้อง รธน.50 ตุลาการมีข้อกฎหมาย จัดการนักการเมืองที่โกงบ้านกินเมืองซื้อเสียง เชื่อ 5 แกนนำ จะไม่หนีคดี ออกนอกประเทศ
นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง รธน.50 กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีและขอบคุณแกนนำและเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ช่วยกันปกป้องคุ้มครอง รธน.50 ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชน 14.7 ล้านเสียง ที่ร่วมลงประชามติยังดำรงอยู่ และทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการปัดกวาดการเมืองไทยให้สะอาดมากขึ้น หากไม่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ รธน.ฉบับนี้จะถูกล้มล้างแก้ไขไปแล้ว นักการเมืองที่โกงบ้านกินเมืองจะกำเริบเสิบสานมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อทำการปล้นทำลายเมืองแล้ว ก็สามารถแก้กฎหมายให้ตนและพวกพ้นผิดได้
“รธน.50 เป็นรัฐธรรมฉบับแรกที่ทำให้นายกรัฐมนตรี 2 คน พ้นจากตำแหน่ง และอดีตนายกรัฐมนตรี 1 คน ถูกศาลสั่งจำคุก และต้องหนีออกนอกประเทศ รวมทั้งทำให้นักการเมืองที่ใช้เงินสกปรกซื้อเสียงเข้าไปยึดอำนาจรัฐแล้วใช้อำนาจโดยมิชอบ ต้องหลุดพ้นจากวงจรการเมืองไป ทั้งยังปกป้องไม่ให้เสียดินแดนบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร อย่างไรก็ตาม ขบวนการประชาภิวัฒน์ กับ ตุลาการภิวัฒน์ มีความสำคัญที่สุด หากปล่อยให้ตุลาการภิวัฒน์ทำงานลำพัง ปราศจากการหนุนเสริมจากประชาภิวัฒน์ ก็ยากจะต้านทานอำนาจเผด็จการทุนนิยมสามานย์ได้” นพ.ชูชัย กล่าว
นพ.ชูชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ว่า การยึดสนามบินทำให้เศรษฐกิจประเทศชาติเสียหายนั้น ขบวนการต่อสู้ตรวจสอบอำนาจรัฐที่ผ่านมาของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ใช้ รธน.มาตรา 63 และ 87 แต่ด้วยจริยธรรมและจิตสำนึกสาธารณะของนักการเมืองไทยยังต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯใช้วิถีอารยะขัดขืนที่เข้มข้น เป็นเหตุให้ก้าวล่วงสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่น ทั้งอาจละเมิดกฎหมายในบางครั้ง
“แต่ผมเชื่อว่า แกนนำพันธมิตรฯ มีความกล้าหาญ และเสียสละเพียงพอที่ต้องเผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรมโดยไม่ต้องหนีออกนอกประเทศ เพราะสิ่งที่แกนนำและเครือข่ายได้ทำ จะส่งผลให้การเมืองของนักการเมืองไทยยกระดับมาตรฐานที่สูงขึ้น ที่สำคัญคือ ได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองภาคพลเมืองที่เข้มแข็ง จนสามารถถ่วงดุลกับอำนาจรัฐและทุนสามานย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นพ.ชูชัย กล่าว
นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง รธน.50 กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีและขอบคุณแกนนำและเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ช่วยกันปกป้องคุ้มครอง รธน.50 ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชน 14.7 ล้านเสียง ที่ร่วมลงประชามติยังดำรงอยู่ และทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการปัดกวาดการเมืองไทยให้สะอาดมากขึ้น หากไม่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ รธน.ฉบับนี้จะถูกล้มล้างแก้ไขไปแล้ว นักการเมืองที่โกงบ้านกินเมืองจะกำเริบเสิบสานมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อทำการปล้นทำลายเมืองแล้ว ก็สามารถแก้กฎหมายให้ตนและพวกพ้นผิดได้
“รธน.50 เป็นรัฐธรรมฉบับแรกที่ทำให้นายกรัฐมนตรี 2 คน พ้นจากตำแหน่ง และอดีตนายกรัฐมนตรี 1 คน ถูกศาลสั่งจำคุก และต้องหนีออกนอกประเทศ รวมทั้งทำให้นักการเมืองที่ใช้เงินสกปรกซื้อเสียงเข้าไปยึดอำนาจรัฐแล้วใช้อำนาจโดยมิชอบ ต้องหลุดพ้นจากวงจรการเมืองไป ทั้งยังปกป้องไม่ให้เสียดินแดนบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร อย่างไรก็ตาม ขบวนการประชาภิวัฒน์ กับ ตุลาการภิวัฒน์ มีความสำคัญที่สุด หากปล่อยให้ตุลาการภิวัฒน์ทำงานลำพัง ปราศจากการหนุนเสริมจากประชาภิวัฒน์ ก็ยากจะต้านทานอำนาจเผด็จการทุนนิยมสามานย์ได้” นพ.ชูชัย กล่าว
นพ.ชูชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ว่า การยึดสนามบินทำให้เศรษฐกิจประเทศชาติเสียหายนั้น ขบวนการต่อสู้ตรวจสอบอำนาจรัฐที่ผ่านมาของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ใช้ รธน.มาตรา 63 และ 87 แต่ด้วยจริยธรรมและจิตสำนึกสาธารณะของนักการเมืองไทยยังต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯใช้วิถีอารยะขัดขืนที่เข้มข้น เป็นเหตุให้ก้าวล่วงสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่น ทั้งอาจละเมิดกฎหมายในบางครั้ง
“แต่ผมเชื่อว่า แกนนำพันธมิตรฯ มีความกล้าหาญ และเสียสละเพียงพอที่ต้องเผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรมโดยไม่ต้องหนีออกนอกประเทศ เพราะสิ่งที่แกนนำและเครือข่ายได้ทำ จะส่งผลให้การเมืองของนักการเมืองไทยยกระดับมาตรฐานที่สูงขึ้น ที่สำคัญคือ ได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองภาคพลเมืองที่เข้มแข็ง จนสามารถถ่วงดุลกับอำนาจรัฐและทุนสามานย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นพ.ชูชัย กล่าว