เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท เผย “เฉลิม” ไม่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อ สร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหาบ้านเมือง หากนั่งเก้าอี้นายกฯ จะเกิดปัญหาตามมาอีกมากแน่นอน
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท กล่าวว่า การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามข้อมูลหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่โดยผ่านการกลั่นกรองจากศาลฎีกา ขณะนี้สังคมไทยต้องการนักการเมืองที่มีจริยธรรมสูง ซึ่งหากเป็นในต่างประเทศ นักการเมืองคงไม่ต้องรอให้มีการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่คงตัดสินใจลาออกตั้งแต่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษาเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่มที่ 1 รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) เป็นเวลา 5 ปีแล้ว ซึ่งผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญช่วยให้ปัญหาทางการเมืองของประเทศให้คลี่คลายลง
“สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ ถือเป็นช่วงสุญญากาศคงต้องรอดูกันต่อไป เราคงไม่มีสิทธิเลือกได้ว่าอยากให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อยากเห็นผู้นำที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในช่วงคับขันเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม มีความสามารถในด้านการบริหารได้รับความเชื่อถือจากทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง หรือ เสื้อแดง เพราะสังคมบอบช้ำมามาก หากได้ผู้นำที่ไม่เป็นกลางจะไม่สามารถแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้ และบ้านเมืองจะยังคงมีแต่ความวุ่นวายต่อไป” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่จริง เชื่อว่า จะเกิดปัญหาตามมาอีกมาก เพราะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อาจมองในอีกมุมหนึ่งว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองได้ เพราะต้องการคนที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต นำพาบ้านเมืองในรูปแบบการเมืองใหม่ อีกทั้งที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งบริหารกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังไม่มีผลงานใดๆ ชัดเจน เรื่องที่พูดเป็นแค่นโยบายที่ไม่เห็นเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีความไม่เหมาะสมในแง่ที่ไม่ได้รับการอมรับจากประชาชน ไม่มีบารมีพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังไม่เห็นรัฐมนตรี หรือ ส.ส.ในพรรคฝ่ายรัฐบาลคนใดที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ได้