สธ. เร่งศึกษาความเหมาะสมนโยบาย “เมดิคอลฮับ” ชี้หากให้โรงพยาบาลรัฐร่วมเป็นศูนย์การรักษาทางการแพทย์ให้ชาวต่างชาติ โดยไม่แก้ระเบียบ กฎหมาย เพิ่มอัตราค่ารักษาพยาบาลต่างชาติ เพิ่มค่าตอบแทนหมอ พยาบาล หวั่นเกิดวิกฤตซ้ำแพทย์งานหนักขึ้นแต่รายได้เท่าเดิม ยิ่งเร่งให้แพทย์แห่ออกจากระบบราชการมากขึ้น
นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามนโยบายเมดิคอลฮับของรัฐบาลว่า ขณะนี้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรมการแพทย์ อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมของการเนินนโยบายเมดิเคิลฮับของโรงพยาบาลในสังกัด สธ. ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า โรงพยาบาลของรัฐ ไม่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินนโยบายเมดิเคิลฮับแต่อย่างใด เนื่องจากระเบียบของทางราชการ โดยเฉพาะระเบียบกระทรวงการคลัง ไม่เอื้ออำนวย รายได้จาการจัดเก็บค่ารักษาพยาบาลจากชาวต่างชาติ ยังเป็นอัตราเดียวกับที่เรียกเก็บจากผู้ป่วยชาวไทย ซึ่งแตกต่างจากโรงพยาบาลเอกชน และโรงเรียนแพทย์ที่อยู่นอกระบบราชการ ที่สามารถคิดอัตราค่ารักษาพยาบาลในราคาที่แพงขึ้นได้
นอกจากนี้ สธ. ได้ดำเนินการศึกษาแก้ไขระเบียบราชการ โดยเฉพาะเรื่องทางการเงิน เช่น เพิ่มอัตราค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยชาวต่างชาติ การเพิ่มค่าตอบแทนแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยชาวต่างชาติ เป็นต้น รวมถึงปัญหาเรื่องการจ่ายเงินของบริษัทประกันต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะซื้อประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชน ดังนั้นจะเกิดปัญหาว่า จะนำเงินส่วนนี้จ่ายเข้าสู่ระบบใด ระหว่างระบบราชการ หรือจ่ายให้โรงพยาบาลโดยตรง ซึ่งหากจ่ายให้โรพงยาบาลก็จะจะสามารถแบ่งเป็นค่าตอบแทนให้กับแพทย์ พยาบาลได้ แต่หากจ่ายเข้าระบบราชการ จะทำให้แพทย์ พยาบาล ไม่ได้ประโยชน์เลย
“ในทางตรงกันข้ามหากสธ. ดำเนินนโยบายเมดิคอลฮับ โดยที่ยังไม่มีการแก้ไขระเบียบระบบการทำงาน รวมถึงปัจจัยสนับสนุนการทำงานของแพทย์ จะส่งผลเสียต่อระบบสาธารณสุขไทย เพราะเมดิคอลฮับจะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระทำให้แพทย์ พยาบาล มีงานเพิ่มมากขึ้น เพราะมีผู้ป่วยชาวต่างชาติมารักษาโรคมากขึ้น แต่แพทย์เหล่านี้ยังมีรายได้เท่าเดิม นอกจากนี้จะส่งผลกระทบกับผู้ป่วยชาวไทยที่จะได้รับการรักษาพยาบาลได้น้อยลง เพราะแพทย์ต้องแบ่งเวลาไปดูผู้ป่วยชาวต่างชาติ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจะยิ่งเร่งให้แพทย์ลาออกจากราชการมากขึ้นได้” นพ.เรวัติ กล่าว
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สธ. เป็นเพียงหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายเมดิเคิลฮับ ให้กับโรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนแพทย์ โดยที่โรงพยาบาลในสังกัด สธ. ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการเอง จนกระทั่งรัฐบาลชุดปัจจุบัน และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายชัดเจนจะสนับสนุนให้โรงพยาบาลในสังกัด สธ. เป็นศูนย์การรักษาทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติ