รับเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก สสส.จับมือมูลนิธิเพื่อนหญิงยื่นข้อเสนอแนะเพื่อให้มีการสร้างกลไกเพื่อการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ผจก.มูลนิธิเผยปัจจุบัน 1 ใน 3 ของเด็กและสตรีโดนทารุณกรรม รองอธิบดี สนง.กิจการสตรีและครอบครัวย้ำอยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของปัญหา ชี้อย่ารณรงค์เฉพาะช่วงเทศกาล
วันนี้ (11 พ.ย.) นายสุจิตต์ ไตรพิทักษ์ รองอธิบดีสำนักงานกิจการสตรีและครอบครัว เป็นประธานรับมอบข้อเสนอแนะเพื่อให้มีการสร้างกลไกเพื่อการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 จากนายจะเด็ด เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง โดยนายสุจิตต์ กล่าวว่า ปัจจุบัน 1 ใน 3 ของเด็กและสตรีโดนทารุณกรรม โดยการทุบตีล่อลวง หรือล่วงละเมิด ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ยิ่งไปกว่านั้นเหยื่อผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่ไม่ได้ดำเนินการเอาเรื่องต่อผู้กระทำ เนื่องจากหวาดกลัวและเกรงว่าสังคมจะตราหน้าให้อับอาย และปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่มีผลกระทบต่อผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว แต่มีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน จำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือแก้ไขอย่างจริงจัง
ทางด้าน นายจะเด็ด กล่าวว่า จากการที่มูลนิธิเพื่อนหญิงและเครือข่ายได้มีการนำ พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปเผยแพร่กับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะผู้หญิง พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้หญิง และแกนนำเครือข่ายผู้ชายที่ได้รับรู้กฎหมายนี้ต่างบอกว่า กฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่ดี อยากให้มีการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดกว่าที่เป็นอยู่
“ในโอกาสเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก คือเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ทางมูลนิธิเพื่อนหญิงและเครือข่ายจึงอยากให้ทุกฝ่ายหันมาร่วมมือกัน ผลักดันให้เกิดการบังคับใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ และไม่อยากให้มีการรณรงค์เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนได้ตระหนัก
ร่วมกันว่าปัจจุบันปัญหาความรุนแรงที่มีต่อเด็กและสตรีนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ เร่งผลักดันให้กฎกระทรวงผ่านการพิจารณาของกฤษฎีกาโดยเร็ว” นายจะเด็ดกล่าว
หลังจากการแถลงข่าวร่วมกันเสร็จ ได้มีการแสดงละครเวทีต่อต้านความรุนแรง โดยเครือข่ายละครงดเหล้า ดีดี้ดี เป็นหนึ่งในกิจกรรมรณรงค์ “1 เสียงหยุดความรุนแรง” ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ถึงปัญหาเรื่องความรุนแรงที่มีต่อผู้หญิงและเด็ก และต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันยุติความรุนแรงภายในครอบครัว
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำเหล่าศิลปินดารา และนักศึกษาเข้าติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวแก่คณะรัฐมนตรี ซึ่งริบบิ้นสีขาวนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้ชายติดเพื่อแสดงถึงการร่วมกันต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรี โดยยอมรับว่าจะไม่ทำร้ายหรือนิ่งเฉยต่อการใช้ความรุนแรงต่อสตรีในทุกรูปแบบ