“อภิรักษ์” ระบุคดีทุจริตทำโผผู้ค้าโบ๊เบ๊ปลอมเป็นการกระทำส่วนบุคคล ลั่น กทม.พร้อมดำเนินการทางวินัย ขณะเดียวกันก็เดินหน้าผลักดันเป็นย่านการค้าพิเศษให้ คกก.ย่านจับทุจริตเอง ขณะที่ปลัด กทม.เผยตั้ง กก.สอบเรื่องนี้อยู่แล้วแต่ต้องรอผลสอบทางตำรวจอีกครั้ง
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและบุคคลที่เกี่ยวข้อง 14 ราย ในคดีจัดทำรายชื่อผู้ค้าแผงขายริมถนนใกล้ตลาดโบ๊เบ๊ไม่ตรงกับความจริงมารับทราบข้อกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2547 สมัยนายอภิรักษ์ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สมัยแรกว่า ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้แจ้งเรื่องอย่างเป็นทางการมาถึง กทม. แต่คาดว่าหนังสือจะส่งผ่านมาถึงนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ซึ่งตนจะมีการหารือกับปลัด กทม.อีกครั้งว่าในส่วนของ กทม.จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป หลังจากที่เจ้าหน้าที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา
ทั้งนี้จะต้องแยกเรื่องในทางคดี และเรื่องทางวินัยออกจากกัน เพราะการกระทำของผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาถือเป็นการกระทำส่วนบุคคล ขณะที่การดำเนินการทางวินัย กทม.มีระเบียบและขั้นตอนในการปฏิบัติอยู่แล้ว โดยกองการเจ้าหน้าที่จะเป็นฝ่ายพิจารณา ส่วนปัญหาในพื้นที่คงต้องดูกันเป็นรายๆ เนื่องจากย่านการค้าโบ๊เบ๊ กทม.มีนโยบายที่จะพัฒนาให้เป็นย่านการค้าพิเศษมีคณะกรรมการย่านเป็นผู้ดูแล รวมทั้งจุดทำการค้าดังกล่าวก็มีการตั้งสหกรณ์เฉลิมพระเกียรติโบ๊เบ๊ขึ้นมา ซึ่งจะมีการตรวจสอบกันเองในพื้นที่ด้วย
ด้าน นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง พบว่า ว่าที่ ร.ต.สุชาติ จันทร์น้อย อดีต ผอ.เขตป้อมปราบฯ ได้เกษียณราชการไปแล้ว ส่วนที่เหลือยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งข้าราชการและลูกจ้างอยู่ ซึ่งเรื่องดังกล่าว กทม.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่แล้ว แต่คงต้องรอให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนให้เสร็จเรียบร้อยก่อนและสรุปอย่างไร ดังนั้นจึงจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งโทษทางวินัยราชการมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ลดขั้นเงิน ปลดออก ให้ออก และไล่ออก
