“สุชาติ นาคบางไทร” เผยแผนปฏิบัติการ 7 ขั้นตอนทวงทำเนียบจากพันธมิตรฯ ชู นำขยะพิษไปทิ้งที่ทำเนียบกดดันผู้ชุมนุม ถ้าไม่ยอมออกโดนข้อหาผู้ก่อการร้าย ระบุ หากรัฐบาลไม่เห็นด้วยจะใช้อำนาจผู้ว่าฯ กทม.ขับไล่รัฐบาลออกไป ด้าน “ดร.แดน” บุกศาลาว่าการ กทม.ลองใช้กุญแจยักษ์ไขประตูห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม.เอาฤกษ์เอาชัย
วันนี้ (1 ต.ค.) ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง นายวราวุธ ฐานังกรณ์ หรือ สุชาติ นาคบางไทร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 4 แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการและกลุ่ม นปก. แถลงแผนปฏิบัติการคืนทำเนียบภายใน 7 วัน โดย นายวราวุธ กล่าวว่า ในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 4 ขอแถลงนโยบายเร่งด่วน โดยหากตนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะปฏิบัติการคืนทำเนียบรัฐบาลให้กลับสู่สถานการณ์ปกติภายใน 7 วัน โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.แจ้งเตือนผู้บริสุทธิ์หรือผู้หลงผิดล่วงหน้า 1 วัน ให้ออกจากทำเนียบรัฐบาลโดยทันที หากใครไม่ยอมออกถือว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
2.จะขอให้ทำเนียบเป็นที่พักขยะและมูลสัตว์ชั่วคราว
3.จะใช้ทำเนียบเป็นที่กักกันสุนัขจรจัดชั่วคราว
4.จะนำขยะของกรุงเทพฯ ที่เก็บได้ประมาณ 8,500 ตันต่อวัน ไปพักไว้ที่ทำเนียบโดยปิดทางเข้าออก
5.นำมูลสัตว์ เช่น สุกร โค กระบือ เป็ด และไก่ ไปราดทับกองขยะ
6.นำสุนัขจรจัดของ กทม. ทั้งเลี้ยงไว้ในสถานรับเลี้ยงที่ประเวศ และทุ่งสีกันจำนวน 2,800 ตัวไปเลี้ยงและให้อาหารในทำเนียบโดยปล่อยวันละ 100 ตัวเป็นเวลา 7 วัน และ
7.นำขยะชีวภาพจากโรงพยาบาลใน กทม.ไปพักไว้ที่ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถผลักดันให้ผู้ก่อการร้ายยอมคืนทำเนียบโดยดี โดยไม่มีการปะทะหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากปฏิบัติการดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กทม.จะมีแนวทางอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า ตนได้เตรียมการเอาไว้แล้ว ว่า หากรัฐบาลไม่เห็นด้วย ตนในฐานะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ จะใช้อำนาจขับไล่รัฐบาลในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ดอนเมือง ซึ่งแสดงว่า รัฐบาลนี้มีความอ่อนแอ ไม่สามารถใช้อำนาจขับไล่ผู้ชุมนุมได้ ปล่อยให้ใครทำอะไรได้ตามอำเภอใจ โดยตนจะชวนคน กทม.โดยเฉพาะคนจรจัด คนเร่ร่อน ที่ท้องสนามหลวง ไปชุมนุมขับไล่รัฐบาล ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นการขู่ แต่ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เมื่อพันธมิตรฯยึดทำเนียบได้ ตนก็จะยึดสนามบินดอนเมืองได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญในการแถลง 2 คน คือ นายวิทยา จังกอบพัฒนา หมายเลข 9 และ นายภพศักดิ์ ปานสีทอง หมายเลข 11 โดยทั้งสองสนับสนุนแนวคิดของ นายวราวุธ และเรียกร้องให้ผู้สมัครคนอื่น หันมาสนใจปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ กทม.ในขณะนี้ มากกว่าจะเดินหาเสียงให้ตนเอง
ในวันเดียวกันนายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 2 ได้ลงพื้นที่พบปะกับข้าราชการ และ ลูกจ้าง กทม.ที่ศาลาว่าการ กทม.โดย นายเกรียงศักดิ์ ได้ใช้เวลาพบกับหัวหน้าข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.เป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง และได้เดินหาเสียง พร้อมกับดูการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ลูกจ้างทุกห้องของศาลาว่าการ กทม.จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้วางนโยบายสำหรับข้าราชการ ลูกจ้างของ กทม.ไว้ทั้งหมด 4 นโยบาย คือ
1.ตนจะสร้างที่พักให้กับข้าราชการ และลูกจ้าง กทม.ให้ใกล้กับที่ทำงาน เพื่อไม่ให้ข้าราชการ ลูกจ้างประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเพิ่มความสะดวก ประสิทธิภาพในการทำงาน 2.ข้าราชการ ลูกจ้างต้องมีหลักประกันชีวิต โดยตนจะประสานกับสำนักงานประกันสังคม ให้เป็นการประกันราคาประหยัดแบบกลุ่ม ซึ่งบุคคลที่เอาประกันสามารถจ่ายเบี้ยประกันในราคาถูกเพียงอัตราเดียว
3.ลูกจ้างประจำที่ทำงานดี มีผลงานรับรอง จะได้รับการปรับให้เป็นข้าราชการ และ 4.จัดตั้งกองทุนเชิดชูคนดี ข้าราชการคนใดที่ทำประโยชน์ให้กับ กทม.จะมีการปรับเงินเดือนขึ้นตามผลงาน ซึ่งจะได้มีการวางหลักเกณฑ์ชี้วัดตามหลักธรรมาภิบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คณะหาเสียงของ นายเกรียงศักดิ์ ได้นำลูกกุญแจยักษ์ที่ทำมาจากพลาสติกนำมาหาเสียงครั้งนี้ด้วย เพื่อที่จะไขประตูหน้าห้องผู้ว่าฯ กทม.เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.5 ตุลาคมนี้ด้วย จากนั้นได้ลงหาเสียงกับประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบศาลาว่าการ กทม.ซึ่งการลงพื้นที่ดังกล่าวได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เนื่องจาก นายเกรียงศักดิ์ ได้นำ นายสมบัติ เมทะนี นักแสดง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานร่วมลงพื้นหาเสียงครั้งนี้ด้วย