เมื่อไหร่ที่มีคนพูดถึง ผู้หญิงเก่งแห่งกระทรวงศึกษาธิการ รับรองว่าชื่อของ “ดร.จรวยพร ธรณินทร์” อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องเป็นหนึ่งในชื่อหญิงเก่งที่ถูกนึกถึงอย่างแน่นอน
นอกจากฝีไม้ลายมือในการบริหารงานจะฉกาจฉกรรจ์แล้ว ภาพลักษณ์ของ ดร.จรวยพร ยังเป็นผู้บริหารหญิงที่บุคลิกดี ดูสดสวย และกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในวัย 60 ปี และถึงเวลาต้องอำลาเก้าอี้ ปลัด ศธ.แล้ว
เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพของอดีตปลัดฯ หญิงเก่งคนนี้ไม่ได้ยุ่งยากเกินไป หากจะมีใครเอาไปปฏิบัติตาม
“การที่เราจะดูดีได้ สุขภาพต้องดี ดังนั้น เราต้องตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อดูน้ำตาล และไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล ความดัน รวมถึงดูว่าเรามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ ที่สำคัญ ต้องออกกำลังกาย ซึ่งหลายคนบอกไม่มีเวลา ก็ควรหาวิธีให้ร่างกายเราได้เคลื่อนไหว เช่น การใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือขยับแขน ขยับขา เพื่อให้ร่างกายตื่นตัว”ดร.จรวยพร กล่าว
นอกจากนี้ สิ่งที่ ดร.จรวยพร ให้ความสำคัญอย่างมาก คือ การควบคุมน้ำหนักให้สมดุลกับส่วนสูง เพื่อให้รูปร่างดูดี และไม่สะสมโรคภัยไว้ในตัว ซึ่งการควบคุมน้ำหนักนั้น ก็จะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยง อาหารประเภท แป้ง และน้ำตาล
“มื้อเช้ามักจะเป็นอาหารเบาๆ เช่น ข้าวต้ม แต่ต้องรับประทานทุกวัน ส่วนกลางวันก็รับประทานเป็นอาหารจานเดียวทั่วไป หรือข้าวราดแกง มื้อเย็นมักจะเน้นที่ผัก เนื้อสัตว์จะเป็นเนื้อปลา ซึ่งในช่วงบ่ายแต่ละวัน ก็อาจจะรับประทานอาหารว่าง หรือผลไม้บ้างหากหิว แต่ต้องไม่กินขนมจุกจิก พยายามลดน้ำตาลให้น้อยลง รับรองว่าควบคุมน้ำหนักและสามารถรักษารูปร่างให้ดูดีได้แน่นอน”
ดร.จรวยพร กล่าวอีกว่า นอกจากดูแลสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจก็ต้องดีด้วย โดยตื่นเช้าขึ้นมาจะยิ้มให้กับกระจกทุกวัน สำรวจร่างกายตัวเองหน้ากระจก และเมื่อมาถึงห้องทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการ ต้องสวดมนต์ไหว้พระ อันเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำเป็นประจำ และหากช่วงเวลาไหนรู้สึกว่าเหนื่อยล้าจากการทำงานมากๆ จะใช้แผ่นเจลซึ่งมีแช่ตู้เย็นไว้ พันด้วยผ้าวางบนหน้าผาก หรือบริเวณดวงตา จะช่วยผ่อนอาการเหนื่อยล้าลงไปได้
“วิธีคลายเครียดทั้งทางกายและใจที่ได้ผลอีกอย่าง คือ การแช่น้ำอุ่นจัดสัก 15-20 นาที จะทำให้เรารู้สึกสบายตัว แต่การได้อยู่กับครอบครัว ได้พูดคุยกัน ดูแลกันและกัน ก็เป็นการผ่อนคลายที่ดี”
แม้ว่าการได้อยู่กับคนในครอบครัวจะเป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่ง แต่อดีตปลัด ศธ.ท่านนี้ จะไม่นำปัญหาหนักๆ จากที่ทำงานกลับไปที่บ้าน ถ้ามีปัญหาในการทำงาน ดร.จรวยพร มักจะปรึกษา หรือระบายกับทีมงานที่ทำงานด้วยกัน เพราะเห็นว่าปัญหาในการทำงานก็ต้องคุยกับคนที่ทำงานจึงจะเข้าใจ
“ในแต่ละปีมักจะไม่ลาพักร้อน เพราะคิดว่าเราเป็นผู้บริหาร มีเรื่องที่ต้องทำเยอะหากเราลาหยุดไปผู้ใต้บังคับบัญชาอาจจะต้องมารอเรา แต่จะคิดว่าในแต่ละปีเราต้องเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศอยู่แล้ว ก็คิดว่านั่นแหละคือการได้ไปพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศในตัว ไม่ต้องเสียเวลาพักร้อน”
แน่นอนว่า ใครก็ตามที่ได้พบกับ ดร.จรวยพร เป็นต้องประทับใจกับ “เสื้อผ้า หน้า ผม” ที่อดีตปลัดฯ หยิบจับมาสวมใส่ได้อย่างลงตัว และดูดี
“เสื้อผ้าที่ใช้ส่วนใหญ่จะใช้ผ้าไหมแทบทั้งหมด เพราะผ้าไหมจะมีความเงางาม และสีสวยสด เมื่อสวมใส่จะทำให้ดูภูมิฐาน มีสง่าราศี และลักษณะพิเศษของผ้าไหมเราสามารถเอามาใส่ลวดลาย หรือใช้เครื่องประดับอื่นๆ ตกแต่งได้ เช่น เข็มกลัด หรือฉลุลายในเนื้อผ้า แต่การจะสวมใส่เสื้อผ้าให้ดูดี เราต้องรู้จุดบกพร่องของตนเอง เพื่อเลือกเสื้อผ้าช่วยพรางจุดบกพร่อง”
ดร.จรวยพร ย้ำด้วยว่า เครื่องประดับต่างๆ ที่นำมาสวมใส่ควรจะต้องเข้าชุดกัน ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เข็มขัด และกระเป๋า เพราะหากเลือกได้เข้าชุดกัน ก็จะสะท้อนรสนิยมการแต่งกายที่ดีของตนเองด้วย
“เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพง เพียงแต่ขอให้ดูดี มีรสนิยม ไม่ดูเป็นของโหล บางอย่างเราก็เลือกของถูกๆ มาดัดแปลง หรือใช้ของปลอม เช่น ไข่มุก ก็ซื้อของปลอมมาใช้ เพราะดูแล้วก็เหมือนๆ ของจริง แต่ราคาถูกกว่าเยอะ แต่เอามาตบแต่งให้เหมาะสมถูกใจเรา ก็จะทำให้เรามั่นใจ เมื่อมั่นใจบุคลิกภาพของเราก็จะดีตามไปด้วย ใครพบเจอก็จะเกิดความประทับใจ”
ส่วนแบบเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายนั้น ดร.จรวยพร เปิดเผยว่า ใช้วิธีสืบค้นจากอินเตอร์เน็ต และดูจากนิตยสารแฟชั่นบ้าง แล้วนำไปดัดแปลงสั่งตัดตามที่ตนเองชอบ
“ที่ชอบแต่งตัว เพราะไม่ใช้คนสวย จึงอยากดูดี เราก็ต้องศึกษา ลบจุดด้อยของตัวเอง พัฒนาบุคลิกภาพของเราให้ประทับใจผู้พบเห็น ซึ่งความประทับใจที่เกิดขึ้นนี้ มีส่วนทำให้เราบริหารงานง่ายขึ้นด้วย”
เคล็ดลับการดูแลตัวเองให้ดูดีแบบง่ายๆ ของ ดร.จรวยพร มีเท่านี้จริงๆ ปลัดฯ หญิงยืนยัน
