ศูนย์นเรนทรเตรียมรับมือเหตุรุนแรง ทั้งโรงพยาบาล ใกล้เคียง รถกู้ชีพฉุกเฉิน พร้อมดูแลผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ เผยพบพันธมิตรฯหัวใจวายเฉียบพลัน 1 ราย นำตัวเข้ารักษาที่ราชวิถีแล้ว
วันที่ 26 สิงหาคม นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการผู้อำนวยการศูนย์นเรนทร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของสถานพยาบาลในการรับมือเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้บาดเจ็บในการชุมนุมว่า ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับสถานพยาบาลทุกแห่งในบริเวณจุดต่างๆ ที่ใกล้กับสถานที่ชุมนุมทั่ว กทม.ได้มีการเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะรถกู้ชีพทั้งของโรงพยาบาลและอาสาสมัครเอกชนกว่าหลายร้อยคันด้วย
“เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (26 ส.ค.) ขณะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางบุกเข้าไปยังสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) พบคนในกลุ่มพันธมิตรฯ 1 ราย ที่มีอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ทีมหน่วยกู้ชีพศูนย์นเรนทรจึงได้นำเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีเป็นการด่วน ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะปัจจัยเรื่องสภาพอากาศที่ร้อน” นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมสถานพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงอาทิ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฎ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล โดยเตรียมความพร้อมรถพยาบาลฉุกเฉินไว้กว่า 60 คัน เพื่อรองรับเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ขณะเดียวกัน ก็เตรียมพร้อมในทุกพื้นที่เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นด้วย
นพ.ปราชญ์ บุณยะวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขให้เตรียมความพร้อมเรื่องรถฉุกเฉิน เวชภัณฑ์ บุคลากร ไว้หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ใดๆ ก็สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที โดยมีการประสานงานกับโรงพยาบาลในสังกัด กทม.อีกทางหนึ่งด้วย เบื้องต้น ยังไม่มีการร้องขอจากหน่วยงานใดเป็นพิเศษ แต่การเตรียมความพร้อมถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงอยู่แล้ว
ต่อมานพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการณ์ผู้อำนวยการศูนย์นเรนทร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ได้รับรายงานล่าสุดว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 5 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม ได้แก่ พ.ต.อ.สุรเดช เป็นธรรม อายุ 48 ปี ถูกกระจกบาดที่ใบหน้า ทำแผลและกลับบ้านแล้ว นายธนบดี วิบูลย์จาก อายุ 47 ปี มีอาการหูอื้อ รักษาเสร็จก็กลับบ้านแล้วทั้ง 2 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมอีก 2 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นแผลถลอก แพทย์ได้ทำความสะอาดแผลให้ โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีทั้งหมด แพทย์ให้การรักษาและอนุญาตให้กลับบ้านได้ทุกราย ส่วนผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลันขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง
“หลังจากนายกฯ ได้แถลงว่าจะจัดการขั้นเด็กขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ทางผู้บริการสธ. ได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัด สธ. เตรียมพร้อมและอยู่เวรมากกว่าปกติ เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” นพ.สุรเชษฐ์กล่าว