กทม.แจ้งความเอาผิดปั๊มน้ำมันหลังเป็นชนวนทำท่อระบายน้ำ กทม.ระเบิด ขณะที่เร่งบำบัดน้ำเป็นกรณีพิเศษ พร้อมประสานตำรวจดูแลการจราจรในช่วงเลิกเรียน
นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการตรวจพื้นที่หลังจากเกิดเหตุท่อระบายน้ำระเบิดบริเวณปากซอยพหลโยธิน 45-49 ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเป็นห่วงเรื่องการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ที่มีปริมาณมากและนักเรียนโรงเรียนใกล้เคียง จึงได้กำชับให้ทางนายพรเลิศ พันธุ์วัฒนา ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยอำนวยความสะดวกการสัญจร และการข้ามถนนของเด็กนักเรียนตอนช่วงเลิกเรียน
ทั้งนี้ ยืนยันว่าน้ำมันที่ปนเปื้อนลงไปในท่อระบายน้ำจะไม่ไหลไปบนเปื้อนน้ำในคลองบางบัวที่อยู่ใกล้เคียงอย่างแน่นอน เนื่องจากได้ปิดปากท่อระบายน้ำไว้แล้ว และน้ำที่ปนเปื้อนดังกล่าวยังจะได้รับการบำบัดเป็นพิเศษก่อนที่จะเข้าสู่การบำบัดตามปกติที่บำบัดน้ำเสียจตุจักร ส่วนสถานีบริการน้ำมันที่คาดว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องดังกล่าวนั้นอยู่ในความดูแลของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันเข้ามาดูแลแล้ว
ด้าน นายพรเลิศ กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่เกิดเหตุได้กั้นให้เป็นจุดอันตรายเรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปในที่เกิดเหตุเพราะเกรงว่าอาจเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ ได้มีการฉีดน้ำอัดเข้าไปภายในท่อระบายน้ำเพื่อให้จำนวนน้ำมันมีความเจือจาง พร้อมกับประสานกับสำนักการระบายน้ำ (สนน.) ให้ดึงน้ำจากท่อลงคลอง และเปลี่ยนฝาท่อระบายน้ำที่ได้รับความเสียหายในทันที ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน
ทั้งนี้ กทม.ก็จะเข้าแจ้งความกับต้นตอที่ทำให้เหตุทันที เนื่องจากมีท่อระบายน้ำซึ่งเป็นทรัพย์สินของ กทม.ได้รับความเสียหายกับเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ตนได้ให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายไม่ว่าจะเป็นอาคารที่กระจกแตก ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ไว้ เพื่อจะได้เรียกร้องค่าเสียหากการสอบสวนตรวจพบว่ามีผู้ที่กระทำผิด ส่วนเรื่องสาเหตุยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในขณะนี้ต้องรอผลสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนถึงจะทราบ
