หมอเผยไทย ผ่ามะเร็งเต้านมออกใช้เต้าเดิมได้ โดยใช้กล้ามเนื้อหลัง คุยเชี่ยวชาญเป็นที่ 1 ในอาเซียน เทียบชั้นเจ้าพ่อผ่านมของอิตาลี ชี้ผลผ่าตัดทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
วันที่ 5 ส.ค.ที่โรงแรมสยามซิตี้ พญ.เยาวนุช คงด่าน อาจารย์แพทย์ประจำภาควิชาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และในฐานะเลขานุการสมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยการผ่าตัดเต้านมพัฒนาไปอย่างมาก โดยที่ผ่ามะเร็งออกแล้วยังสามารถคงเต้านมเดิมไว้ได้ ซึ่งในต่างประเทศใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง และเมื่อ 2-3ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาใช้กล้ามเนื้อจากแผ่นหลังแทนกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพราะระยะเวลาการพักฟื้นที่สั้นกว่าเพียง 3-4 วัน ก็กลับบ้านได้ และเพียง 1 วันหลังการผ่าตัดสามารถลุกขึ้นจากเตียงได้ และไม่ต้องเจ็บแผลเหมือนการคลอดลูกที่พบในผู้ป่วยที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง
"ในอดีตต้องผ่าตัดมะเร็งเต้านมแล้ว ดูอาการการป่วยซ้ำ อีก1-2ปี จึงมาผ่าตัดให้เต้านมสวยงาม แต่ก็เป็นความทุกข์ทรมานของคนไข้ แต่ขณะนี้สามารถผ่าตัดเพื่อคงความงามของเต้านมทันที หลังจากการผ่าตัดมะเร็งเต้านม ซึ่งในบางรายสามารถเพิ่มขนาดจากคัพบี เป็นซี ได้ ขึ้นอยู่กับเต้านมข้างที่เหลือว่ามีขนาดเท่าใด เพื่อความสมดุล ซึ่งในต่างประเทศเอากล้ามเนื้อท้องมาใช้ แต่ไม่เหมาะกับคนไทย จึงนำกล้ามเนื้อหลังมาใช้ ซึ่งถือว่าก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นในอาเซียน และไล่ทันเจ้าพ่อผ่าตัดมะเร็งเต้านมอย่างอิตาลีได้”พญ.เยาวนุช กล่าว
พญ.เยาวนุช กล่าวต่อว่า ในอดีตจะใช้ซิลิโคลนเข้าไปแทนที่ในส่วนเต้านมที่ตัดไป โดยเก็บผิวหนังบริเวณเต้านมไว้ จึงนำกล้ามเนื้อหลังซึ่งไม่มีผลกระทบอะไร เพราะกล้ามเนื้อส่วนดังกล่าวมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของไหล่เท่านั้น อีกทั้งกล้ามเนื้อไหล่ยังมีอีกหลายมัดที่ทำหน้าที่แทนกันได้ จากการติดตามผลไม่พบว่ามีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่อาจกระทบกับนักกีฬา ว่ายน้ำหรือขี่จักรยานบ้าง แม้ว่าอุบัติการณ์การผ่าตัดมะเร็งเต้านมแบบคงความสวยงามลักษณะนี้จะยังไม่แพร่หลายในไทยมากนัก ขณะนี้มีเพียง โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และสถาบันโรคมะเร็งเท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างที่สมาคมฯดำเนินการอบรมแพทย์ พยาบาลให้สามารถใช้วิธีดังกล่าว และ รพ.อุดรธานี ที่เริ่มใช้วิธีการรักษานี้ได้แล้ว
ด้าน นพ.วิชัย วาสนศิริ ศัลยแพทย์ ประจำกองศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า ภายหลังจากการผ่าตัดมะเร็งเต้านมแล้วไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม จำเป็นต้องได้รับยาบำบัด ในอดีตจะต้องได้รับยาเคมีบำบัดทุกราย แต่ขณะนี้ใช้วิธีการรักษาเฉพาะราย อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาเคมีบำบัดทุกราย เนื่องจากต้องพักรักษาตัวนานถึง 2 เดือน ในรายที่เป็นลูกจ้างหรือผู้มีเศรษฐานะไม่ดีอาจมีปัญหาได้
นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ศัลยแพทย์ประจำกลุ่มงานศัลยกรรม สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะกรรมการสมาคมฯ กล่าวว่า ในวันที่21 ส.ค.สมาคมฯจะจัดงานบรรยายพิเศษ “ก้าวใหม่ในการรักษามะเร็งเต้านม”ที่ โรงแรมเรดิสัน โดยภายในงานมีการบรรยายให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจสำหรับโรคมะเร็งเต้านม โดยมีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านมจากสถาบันต่างๆ อาทิ สถาบันมะเร็งฯ โรงพยาบาลรามาธิบดี วชิรพยาบาล โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้กับประชาชนผู้สนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ในวันที่ 20 ส.ค.จะมีการสาธิตการผ่าตัดมะเร็งเต้านมแบบคงความสวยงามจากโรงพยาบาลรามาธิบดีถ่ายทอดมาให้บุคลากรทางการแพทย์ที่โรงแรมเรดิสันที่เข้ารับการอบรมได้ชม
