“อภิรักษ์” สั่งตั้งคณะกรรมการร่วม สอบอาคารพาณิชย์ทรุด เผย ตึกดังกล่าวเขตบางกะปิเคยออกคำสั่งรื้อถอนแล้วเมื่อปี 2543
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร กทม.กรณีเกิดเหตุอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 20 คูหา ทรุดตัว บริเวณซอยรามคำแหง 58/4 เขตบางกะปิ เมื่อเช้ามืดวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคระกรรมการตรวจสอบสาเหตุการทรุดตัวของอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย สำนักการโยธา (สนย.) กทม.วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสถ.) และสถาบันการศึกษาที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรโครงการ เพื่อวิเคราะห์ว่าสาเหตุมาจากหลักการสร้างอาคาร เกิดจากสภาพความเก่าแก่ แผ่นดินอ่อน หรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ โดยให้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 20 คูหา ที่ทรุดตัวเป็นส่วนหนึ่งจากจำนวน 40 คูหา ที่สำนักงานเขตบางกะปิเคยออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้มีการรื้อถอนอาคารตั้งแต่ปี 2543 แต่ประชาชนที่เป็นเจ้าของบ้านและผู้เช่าได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว โดยผลการอุทธรณ์มีบางคูหายังคงยืนคำสั่งให้มีการรื้อถอนต่อไป บางคูหาให้ยกเลิกคำสั่งรื้อถอน และบางคูหาคำสั่งไม่สมบูรณ์ต้องมีการปรับปรุงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะนี้สำนักงานเขตบางกะปิกำลังตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร กทม.กรณีเกิดเหตุอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 20 คูหา ทรุดตัว บริเวณซอยรามคำแหง 58/4 เขตบางกะปิ เมื่อเช้ามืดวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคระกรรมการตรวจสอบสาเหตุการทรุดตัวของอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย สำนักการโยธา (สนย.) กทม.วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสถ.) และสถาบันการศึกษาที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรโครงการ เพื่อวิเคราะห์ว่าสาเหตุมาจากหลักการสร้างอาคาร เกิดจากสภาพความเก่าแก่ แผ่นดินอ่อน หรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ โดยให้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 20 คูหา ที่ทรุดตัวเป็นส่วนหนึ่งจากจำนวน 40 คูหา ที่สำนักงานเขตบางกะปิเคยออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้มีการรื้อถอนอาคารตั้งแต่ปี 2543 แต่ประชาชนที่เป็นเจ้าของบ้านและผู้เช่าได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว โดยผลการอุทธรณ์มีบางคูหายังคงยืนคำสั่งให้มีการรื้อถอนต่อไป บางคูหาให้ยกเลิกคำสั่งรื้อถอน และบางคูหาคำสั่งไม่สมบูรณ์ต้องมีการปรับปรุงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะนี้สำนักงานเขตบางกะปิกำลังตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง