xs
xsm
sm
md
lg

“สุเมธ” ห่วงไทยเปิดเสรีการศึกษาแต่ยังอ่อนภาษาอังกฤษมาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สุเมธ” ห่วงเปิดเสรีด้านการศึกษา เริ่มใช้ 52 ต่างชาติ แห่เปิดมหาวิทยาลัยในประเทศไทยเพียบ จี้ มหาวิทยาลัยเพิ่มขีดความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ให้บุคลากรนักศึกษา เพื่อสู่สนามแข่งด้านธุรกิจการศึกษา
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบสิทธิ์การเข้าใช้โปรแกรมสอนภาษาอังกฤษ Tell me More สื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย (Thailand Cyber University : TCU) ให้แก่เครือข่ายอุดมศึกษาจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำนวนแห่งละ 100 Licenses ว่า ซึ่ง Tell me More หนึ่งในนโยบายของมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย ที่อยากเห็นบุคลากรระดับอุดมศึกษาพัฒนาขีดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเปิดเสรีด้านการศึกษา ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟตา (ASEAN Free Trade Area-AFTA) โดยจะเริ่มนำมาใช้ในปีการศึกษา 2552

ทั้งนี้ ตามข้อตกลงการเปิดเสรีด้านการศึกษา แบ่งออกเป็น 4 โหมด คือ 1.การให้บริการเสรีข้ามประเทศผ่านระบบอี-เลิร์นนิง 2.สมาชิกอาเซียนสามารถเดินทางไปใช้บริการด้านการศึกษาในประเทศสมาชิกได้อย่างเท่าเทียม 3.ประเทศสมาชิกสามารถมาตั้งหน่วยบริการด้านการศึกษาได้ อย่างเช่น อินโดนีเซียสามารถเข้ามาตั้งมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เป็นต้น และ 4.บุคลากร เช่น ครู อาจารย์ สามารถถ่ายโอนไปยังหน่วยงานต่างๆ ได้ทั้งภายในและต่างประเทศ

พร้อมกันนี้ ได้มีข้อตกลงร่วมกันเรื่องการลงทุนว่า ระยะแรกหากประเทศสมาชิกจะมาลงทุนเปิดหน่วยบริการด้านการศึกษา หรือเปิดมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ไทยจะต้องถือหุ้นไม่เกิน 49% แล้วจะลดลงเรื่อยๆ จนถึงปี 2558 เหลือเพียง 29% นั่นหมายความว่า ประเทศสมาชิกถือหุ้นใหญ่สูงถึง 71% และทำให้เกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้น ปัญหาอยู่ที่มหาวิทยาลัยไทยจะปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างไร

“ผมกังวลเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษของบ้านเรา เพราะฉะนั้นสถาบันอุดศึกษาควรปรับตัว แล้วให้ความสนใจพัฒนาศักยภาพทางภาษาให้แก่บุคลากรและนักศึกษามากขึ้น ต่างประเทศอาจใช้เรื่องนี้ดึงดูดลูกค้าไปเรียนกับเขาได้”
 
ดร.สุเมธ กล่าวว่า วันที่ 6 กรกฎาคม จะหารือร่วมกับคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เพื่อระดมความคิดว่า มหาวิทยาลัยควรปรับตัวเพื่อรองรับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เช่น ด้านการเรียนการสอน บางสาขาวิชาอาจสอนเป็นภาษาอังกฤษ 60% ปรับระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ

ด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ไม่ใช่จะเปิดเสรีด้านการศึกษาปี 52 จริงๆ เราเปิดมาระยะหนึ่งแล้ว จึงสังเกตเห็นว่ามีสถาบันการศึกษาของต่างประเทศที่มีชื่อเสียงทยอยมาเปิดสาขาในเมืองไทย เพียงแต่การเปิดนั้นจะต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานของเรา ซึ่งขณะนี้มีสถานศึกษาหลายแห่งมาเปิดสอนภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน ฯลฯ แต่ราคาค่าเรียนแพงกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม การเปิดเสรีต้องเปิดกว้างโดยเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าเรียนด้วย ไม่มีการปิดกั้นเชื้อชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น