“ไชยา” ข้องใจศาลปกครองตัดสิน เตรียมยื่นอุทธรณ์ ฉุนเป็นรัฐมนตรีแล้วออกคำสั่งไม่ได้ แล้วจะมีรัฐมนตรีไว้ทำไม ชี้หากเหตุผลเพราะขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีตามที่ป.ป.ช.ชี้มูล จะแต่งตั้ง รมช.สธ.ดูแลอภ.แทน แล้วออกคำสั่งแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่แทน ขณะที่เลขาฯ รมต.ระบุผลตัดสินของศาลทำให้ฝ่ายบริหารทำงานยาก “หมอวิชัย” ไม่สนมีบอร์ดเกินครึ่งหนึ่งทำงานได้ เตรียมเสนอ “ไชยา” แต่งตั้งเพิ่มอีก 2 คน เพื่อทำงานได้เต็มที่ เผยประชุมนัดแรก ตรวจสอบการทำงาน “บิ๊กแป๊ะ”
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จะรีบยื่นเรื่องอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุดอย่างเร่งด่วน ภายใน 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด โดยในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ นายสุพจน์ ฤชุพันธุ์ เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะนัดทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อหารือและพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์ในกรณีใดบ้าง ซึ่งการยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐานในการทำงานของรัฐมนตรีด้วย
“หากเป็นรมว.สาธารณสุขแล้วไม่สามารถออกคำสั่ง หรือดำเนินการอะไรได้เลย แล้วจะมีรมว.สาธารณสุข ไว้ทำไม ผมเห็นว่า ศาลปกครองชุดนี้ได้รับแต่งตั้งมาจากข้าราชการประจำ นักปกครอง และครูต่างๆ ไม่มีใครเป็นผู้พิพากษาเลย ทำให้การตัดสินคดีพิจารณาแต่เฉพาะด้านการปกครองเท่านั้น ไม่ได้พิจารณาถึงด้านกฎหมาย ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้” นายไชยากล่าว
นายไชยา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ประเด็นที่ตนจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาล เนื่องจากคำพิพากษาของของศาลยังไม่ชัดเจน กรณีการให้ความคุ้มครองการทำงานของบอร์ด อภ. ชุดเก่าทั้ง 8 คน สามารถทำงานได้ตามเดิม หรือศาลคุ้มครองเฉพาะกรรมการที่ยื่นฟ้องแค่ 5 คนเท่านั้น ส่วนกรรมการอีก 3 คน ที่ไม่ร่วมยื่นฟ้องด้วยไม่มีสิทธิ์นั่งในตำแหน่งกรรมการ อภ. ต่อไป และใช้เหตุผลใดในการพิจารณาคุ้มครองให้บอร์ด อภ. ชุดเก่ายังอยู่ในหน้าที่ต่อ ซึ่งหากศาลให้เหตุผลว่า ตนไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งแต่งตั้งบอร์ด อภ. ชุดใหม่ได้ เพราะขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลนั้น ต่อไปตนจะได้มอบหมายให้นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดูแลอภ. และจะเป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้งบอร์ด อภ. ชุดใหม่แทนตน ต่อไปจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องนี้อีก
ขณะที่นายสุพจน์ ฤชุพันธุ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง ต้องอาศัยความรอบคอบในการพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลและรวบรวมข้อมูลเหตุผลมาประกอบ โดยเฉพาะประเด็นการกลับมาทำงานต่อของบอร์ดชุดเก่า ที่มีนพ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นธาน สามารถประชุมบอร์ดได้หรือไม่ เนื่องจาก ศาลให้การคุ้มครองบอร์ดอภ.ชั่วคราว เฉพาะผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ซึ่งบอร์ดที่จะครบองค์ประชุมจะต้องมีอย่างน้อย 8 คน อีกทั้ง การประชุมยังต้องประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการคลังจึงจะสามารถเปิดประชุมได้ แต่เมื่อตัวแทนกระทรวงการคลังลาออกไปแล้วก็ถือว่าการประชุมครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่หากคำวินิจฉัยคุ้มครองไปถึงคณะกรรมการบอร์ดอภ.อื่นๆ รวมทั้ง 8 คน ถือว่า คำสั่งศาลคุ้มครองเกินกว่าคำร้อง ซึ่งมีผู้ฟ้องที่ยื่นเรื่องร้องเรียนเพียง 5 คนเท่านั้น
“ผลการตัดสินของศาลปกครองจะทำให้ ฝ่ายบริหารทำงานยาก เพราะไม่ว่าครม.จะมีมติอะไร คนปฏิบัติก็ไม่ทำตาม ออกมาร้องเรียนกันหมด ทั้งๆ ที่เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจใดก็ตาม สนองนโยบายการทำงานของฝ่ายบริหาร ซึ่งหากบอร์ดไม่ปฏิบัติตาม หรือไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ก็ใช้มติครม.ให้บอร์ดออกได้ เมื่อรัฐมนตรีเสนอ ครม.เห็นชอบเรื่องก็น่าจะจบ” นายสุพจน์กล่าว
ด้านนพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ด อภ. กล่าวว่า ตนได้นัดประชุมบอร์ด อภ. ชุดเก่าทั้งหมดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เวลา 13.30 น. ที่อภ. เพื่อหารือแนวทางในการทำงานต่อไป โดยเน้น 3 ประเด็น คือ 1.แจ้งคำสั่งศาลปกครองให้ทราบ 2.เร่งดำเนินงานที่คั่งค้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะการนำเข้ายาที่ถูกประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรโดยรัฐ(ซีแอล) ยารักษาโรคมะเร็งให้เร็วที่สุด และ3.ตรวจสอบการทำงานของบอร์ด อภ. ชุดที่มีนายถิรชัย เป็นประธาน ได้ดำเนินการว่ามีความผิดพลาดหรือไม่ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง
“ขณะนี้บอร์ด อภ. ชุดเก่าที่ยังอยู่ในตำแหน่งมีจำนวน 8 คน แต่เมื่อรวมกับนพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ. ซึ่งเป็นกรรมการ อภ. โดยตำแหน่ง ก็จะมีบอร์ด อภ.เป็น 9 คน ถือว่ามีเสียงเกินครึ่งหนึ่งตามที่พ.ร.บ. อภ. กำหนดไว้ คือ ต้องมีบอร์ด 15 คน อย่างไรก็ตาม ผมได้เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่งตั้งกรรมการ อภ. เพิ่มอีก 2 คน เพื่อให้บอร์ดสามารทำงานได้เต็มที่ และมีความเหมาะสม” นพ.วิชัยกล่าว
