xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยา” จวก รพ.ชุ่ย!! นำน้ำกรดหยอดปากเด็ก นึกว่ายาสลบ สั่งสอบด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ไชยา” จวกโรงพยาบาลเอกชนย่านปทุมสะเพร่า! นำน้ำกรดรักษาหูดมาหยอดใส่ปากเด็กวัย 2 ขวบ นึกว่ายาสลบ สั่งเจ้าหน้าที่กองการประกอบโรคศิลปะ สสจ.ปทุมธานี ตรวจสอบด่วน

ไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ.
จากกรณีที่ ด.ช.ธนกร ปั้นสิน หรือน้องเฟรม อายุ 2 ขวบ บุตรชาย นางจันทรา ปั้นสิน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 8 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เข้าไปรักษาเพื่อผ่าฝีที่ใต้ตา ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ระหว่างที่แพทย์นำตัวน้องเฟรมเข้าห้องผ่าตัด พยาบาลได้หยอดยาสลบขวดที่ 2 ให้ผิด โดยนำน้ำกรด ซึ่งใช้สำหรับหยอดรักษาหูด มาหยอดใส่ปาก ทำให้เกิดรอยแดงไหม้เป็นทางยาวที่บริเวณปาก หลังจากนั้นแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลแห่งนี้ได้ช่วยกันล้างน้ำกรดออก และทางโรงพยาบาลจะส่งตัวน้องเฟรมไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อส่องกล้องดูการบาดเจ็บของอวัยวะภายในต่อไปนั้น

นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งการให้กองการประกอบโรคศิลปะ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ไปตรวจสอบมาตรฐานทั้งสถานที่ บุคลากรของโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นต้นเหตุเป็นการด่วน ว่าการรักษาพยาบาลเป็นไปตามมาตรฐานตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 หรือไม่

“แปลกใจว่าน้ำกรดไปอยู่คู่กับยาสลบได้อย่างไร สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติงานที่สะเพร่ามาก ยาอันตรายควรเก็บแยกไว้ต่างหากและต้องใช้อย่างระมัดระวัง” นายไชยากล่าว

ด้าน นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ภายในวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 3 คนไปตรวจสอบมาตรฐานการรักษาโรงพยาบาลเอกชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี โดยจะดูทั้งมาตรฐานสถานที่ ความสะอาด และความปลอดภัย ถ้าไม่ได้มาตรฐานเกี่ยวกับความสะอาด และความปลอดภัย จะมีโทษปรับ 10,000 บาท ซึ่งตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนดให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานให้บริการในสถานพยาบาล ต้องเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเท่านั้น ห้ามนำ ผู้ไม่มีใบประกอบวิชาชีพมาให้บริการอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยในเรื่องมาตรฐานการปฏิบัติงานของบุคลากรแพทย์ พยาบาลนั้นจะประสานส่งให้สภาวิชาชีพคือแพทยสภา และสภาการพยาบาล ดำเนินการตรวจสอบต่อไป

นพ.ธารา กล่าวต่อว่า โดยทั่วไป ระบบการจัดเก็บยา ของสถานพยาบาลต่างๆทุกแห่งไม่ว่ารัฐบาลหรือเอกชน ต้องแยกเก็บให้ชัดเจน ระหว่างยาที่ใช้ภายนอก ยารับประทาน ยาอันตราย ต้องมีป้าย ฉลากติด เห็นได้ชัดเจน ผู้ใช้ต้องมีความรู้ และสถานพยาบาลทุกแห่งต้องมีระบบบริหารป้องกันความเสี่ยงจากการหยิบยาผิด ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้ป่วย เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบระบบการดำเนินงานของโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย ทั้งนี้ กองการประกอบโรคศิลปะจะจัดอบรมสัมมนาโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งมี 354 แห่ง ในเรื่องการจัดระบบมาตรฐานบริการป้องกันความเสี่ยงในปลายปีนี้ ให้มีระบบเดียวกัน คุ้มครองความปลอดภัยประชาชนมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น