จิตแพทย์เผยผู้ที่ติดเกม-สารเสพติด-หวย-อินเทอร์เน็ต-การพนัน และแฟนมีแนวโน้มติดพนันบอลได้ ชี้ติดมากชีวิตหายนะ หนี้สินท่วมตัว ร้ายแรงขั้นถูกขู่เอาชีวิต บ้านเมืองวิกฤตอาชญากรรมเกลื่อน ระบุอาจเกิดความเครียด ซึมเศร้า และฆ่าตัวตายได้ แนะ 7 วิธีหลีกเลี่ยง เอาชนะการติดพนันบอล
นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลมนารมย์ เปิดเผยว่า ผู้ที่มีลักษณะการติดอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ติดหวย อินเทอร์เน็ต สารเสพติด การพนันชนิดอื่นๆ หรือแม้กระทั่งติดแฟน ก็อาจจะทำให้ติดการพนันฟุตบอลได้ เพราะในทางจิตเวชศาสตร์ เรียกการติดอะไรสักอย่างว่า Dependence ซึ่งการติดการพนันแบบงอมแงมก็อาจจะนำความหายนะมาสู่ชีวิตได้ เนื่องจากเป็นหนี้ และไม่มีเงินจ่าย อาจถูกขู่เอาชีวิตจากเจ้าของโต๊ะพนันบอล ทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า และอาจตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา
“การใจจดใจจ่ออยู่กับการพนันเป็นเวลานานมีโอกาสทำให้ใจหงุดหงิด ก้าวร้าวถูกกระตุ้นทางอารมณ์เพียงเล็กน้อยก็ทนไม่ได้ นอกจากนี้ทำให้เสียเวลา เสียสมาธิในการเรียนการทำงาน อีกทั้งสัมพันธภาพในครอบครัวก็ด้อยลงไป ที่น่ากลัวที่สุดคือการเป็นหนี้สิน ต้องหาเงินมาใช้ เมื่อไม่มีก็ถูกขู่ทำร้าย บางรายถึงแก่ชีวิตก็มี” จิตแพทย์ รพ.มนารมย์ กล่าว
นพ.กัมปนาท กล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบต่อคนในครอบครัวนั้นอาจทำให้สัมพันธภาพในครอบครัวสั่นคลอน สมาชิกในครอบครัวมีโอกาสตกเป็นเหยื่อหรือเป้าหมายในการชดใช้ค่าพนันบอลแทน บางครอบครัวไม่ยอมรับก็อาจจะถูกข่มขู่ทำร้ายได้ นอกจากนี้เมื่อบุตรหลานในครอบครัวติดการพนันแล้ววิธีการจัดการด้วยความโกรธยิ่งทำให้สัมพันธภาพยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ ในที่สุดเด็กและเยาวชนเหล่านั้นก็เตลิดออกจากบ้านในที่สุด ทางด้านสังคมและประเทศชาติ กล่าวคือเมื่อมีคนเป็นหนี้การพนันมากขึ้นส่งผลกระทบต่อปัญหาอาชญากรรมที่ตามมา ประสิทธิภาพในการทำงานพัฒนาองค์กร หรือการพัฒนาของประเทศชาติอาจด้อยลงไปได้
นพ.กัมปนาท ระบุว่า คนที่มีประวัติการติดหลายๆ อย่างมาตลอด ไม่ว่าจะติดเกม ติดเน็ต ติดแฟน ติดสารเสพติด อาจทำให้ติดพนันฟุตบอลได้ คนเหล่านี้ลึกๆ มักจะมีปัญหาทางด้านจิตใจอื่นๆร่วมด้วย เช่น เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ ขาดความภาคภูมิใจในตนเอง รักสนุก ขาดความรับผิดชอบในตัวเอง ไม่ค่อยมีความอดทนในการดำเนินชีวิต อยากมีเงินแต่ไม่อยากทำงาน และที่สำคัญอยากรวยทางลัด
นพ.กัมปนาทชี้ให้เห็นถึงสาเหตุหลักๆ ของการติดการพนันนั้นเกิดจาก ประการที่ 1 คือการได้รับแบบอย่างที่ไม่ดีมาจากครอบครัวหรือผู้เลี้ยงดู คือเรียกว่าอยู่กับสิ่งเหล่านี้มาตลอดทั้งชีวิต พ่อติดเหล้า แม่ติดหวย มีหรือที่ลูกจะไม่ติดเกมและการพนัน แบบอย่างที่ไม่ดีเหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งความหายนะของคนในครอบครัวในที่สุด
ประการที่ 2 คือ ลักษณะการจัดการกับการติดทั้งหลายของคนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ นั่นคือการฝึกเยาวชนให้เป็นคนมีระเบียบวินัย สามารถที่จะควบคุมตนเองให้ไม่ไปหลงงมงายหรือมัวเมาอยู่กับอบายมุข เช่น ไม่มีความสม่ำเสมอในการจัดการกับปัญหา (inconsistency) เรียกว่าไม่เอาจริงเอาจัง โมโห เกรี้ยวกราด ไม่พอใจที่ลูกติดการพนัน แต่ในที่สุดก็ปลง หรือเฉยๆ บอกว่าหมดหวัง ถ้าไม่ลุกขึ้นมาจัดการ ปัญหาก็จะยังอยู่อย่างนั้น ที่น่ากลัวกว่านั้น พ่อแม่หลายคนกลัวลูกจะเสียใจ ถูกขัดใจแล้วเครียด จึงยอมเครียดเอง บางทีก็เครียดจนตัวเองซึมเศร้า ฆ่าตัวตายไปก็มี
ประการที่ 3 คือ เรื่องของสังคม สิ่งแวดล้อมแย่ๆ ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีในการเล่นการพนัน จนเอื้ออำนวยความสะดวกในการเล่นการพนัน รวมกับความล้มเหลวของหน่วยงานภาครัฐในการจัดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก็เลยไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
สำหรับคำแนะ 7 แนวทางในการป้องกันเพื่อไม่ให้ติดการพนันบอล มีดังนี้
1. สถาบันครอบครัว ถือว่ามีความสำคัญที่สุดในการสร้างเกราะป้องกันให้เยาวชน การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดคงไม่เพียงพอ ถ้าไม่แสดงให้บุตรหลานเห็นว่าการเล่นการพนันเป็นตัวนำพาความหายนะมาสู่ครอบครัว ดังนั้นท่าทีของพ่อแม่ผู้ปกครองถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแสดงให้เห็นว่า เอาจริง อย่าทำแค่เพียงขู่ หรือปลงหรือเซ็ง และก็ปล่อยให้ผ่านไป เพราะนั่นจะเป็นตัวแสดงให้เห็นว่าพ่อแม่หรือผู้ปกครองจริงจังด้วย
2. การเอาจริงไม่จำเป็นต้องอาศัยความเกรี้ยวกราด ความรุนแรงก้าวร้าวก็ได้ วิธีการที่นุ่มนวลในการค่อยๆ ทำความเข้าใจ มีความอดทนในการแก้ปัญหาของบุตรหลานที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้บุตรหลานที่มีปัยหาเหล่านั้นยังคงอยู่ในสายตาของครอบครัวได้ ดีกว่าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาจนเตลิดเปิดเปิงไป
3. ร่วมกันช่วยคิดช่วยแก้ปัญหา เมื่อบุตรหลานเกิดปัญหาจากการเล่นพนัน ถ้าแก้ไม่ได้หรือคิดไม่ออกให้พยายามปรึกษาหน่วยงานภาครัฐที่สามารถให้คำปรึกษาได้ จะดีกว่า เช่น หน่วยงานทางด้านการดูแลสุขภาพจิต หน่วยงานของสถานศึกษา เป็นต้น
4. สนับสนุนให้มีการดึงผู้ติดการพนันออกไปสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น การออกกำลังกาย การสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมสัมพันธภาพอันดีให้กับคนในครอบครัว ลดการตำหนิติเตียน แต่หันมาชื่นชม เมื่อบุตรหลานที่ติดการพนันเหล่านั้นสามรถทำสิ่งที่ดีๆและสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้
5. สังคมและครอบครัวต้องร่วมมือกันสร้างค่านิยมใหม่ เช่น ค่านิยมของการพอเพียง การ ไม่คิดรวยทางลัด เพราะมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้น้อยกว่าการมีความขยันหมั่นเพียรอย่างแท้จริง ไม่ให้ความสำคัญกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นแบบอย่างของเยาวชนแต่ทำตัวไม่ดี ค่านิยมการสนใจกีฬาโดยไม่ต้องมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการเล่นการพนันฟุตบอล อย่างสม่ำเสมอ
6. ผู้ที่ติดการพนันฝึกเอาชนะใจของตนเองให้ได้บ่อยครั้งและชื่นชมตัวเองทุกครั้งที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้
7. เมื่อทำทุกวิถีทางไม่ได้แล้ว อีกหนทางหนึ่งที่พอจะช่วยบรรเทาได้ก็คือการมาปรึกษาบุคลากรทางด้านสุขภาพจิต มีหลายรายที่ได้รับการรักษา เช่นรับประทานยา การทำจิตบำบัดหาสาเหตุต้นตอของการลุ่มหลง การ ติดให้ได้ ก็ช่วยลดความรุนแรงของการติดพนันบอลลงได้พอสมควร
นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลมนารมย์ เปิดเผยว่า ผู้ที่มีลักษณะการติดอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ติดหวย อินเทอร์เน็ต สารเสพติด การพนันชนิดอื่นๆ หรือแม้กระทั่งติดแฟน ก็อาจจะทำให้ติดการพนันฟุตบอลได้ เพราะในทางจิตเวชศาสตร์ เรียกการติดอะไรสักอย่างว่า Dependence ซึ่งการติดการพนันแบบงอมแงมก็อาจจะนำความหายนะมาสู่ชีวิตได้ เนื่องจากเป็นหนี้ และไม่มีเงินจ่าย อาจถูกขู่เอาชีวิตจากเจ้าของโต๊ะพนันบอล ทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า และอาจตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา
“การใจจดใจจ่ออยู่กับการพนันเป็นเวลานานมีโอกาสทำให้ใจหงุดหงิด ก้าวร้าวถูกกระตุ้นทางอารมณ์เพียงเล็กน้อยก็ทนไม่ได้ นอกจากนี้ทำให้เสียเวลา เสียสมาธิในการเรียนการทำงาน อีกทั้งสัมพันธภาพในครอบครัวก็ด้อยลงไป ที่น่ากลัวที่สุดคือการเป็นหนี้สิน ต้องหาเงินมาใช้ เมื่อไม่มีก็ถูกขู่ทำร้าย บางรายถึงแก่ชีวิตก็มี” จิตแพทย์ รพ.มนารมย์ กล่าว
นพ.กัมปนาท กล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบต่อคนในครอบครัวนั้นอาจทำให้สัมพันธภาพในครอบครัวสั่นคลอน สมาชิกในครอบครัวมีโอกาสตกเป็นเหยื่อหรือเป้าหมายในการชดใช้ค่าพนันบอลแทน บางครอบครัวไม่ยอมรับก็อาจจะถูกข่มขู่ทำร้ายได้ นอกจากนี้เมื่อบุตรหลานในครอบครัวติดการพนันแล้ววิธีการจัดการด้วยความโกรธยิ่งทำให้สัมพันธภาพยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ ในที่สุดเด็กและเยาวชนเหล่านั้นก็เตลิดออกจากบ้านในที่สุด ทางด้านสังคมและประเทศชาติ กล่าวคือเมื่อมีคนเป็นหนี้การพนันมากขึ้นส่งผลกระทบต่อปัญหาอาชญากรรมที่ตามมา ประสิทธิภาพในการทำงานพัฒนาองค์กร หรือการพัฒนาของประเทศชาติอาจด้อยลงไปได้
นพ.กัมปนาท ระบุว่า คนที่มีประวัติการติดหลายๆ อย่างมาตลอด ไม่ว่าจะติดเกม ติดเน็ต ติดแฟน ติดสารเสพติด อาจทำให้ติดพนันฟุตบอลได้ คนเหล่านี้ลึกๆ มักจะมีปัญหาทางด้านจิตใจอื่นๆร่วมด้วย เช่น เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ ขาดความภาคภูมิใจในตนเอง รักสนุก ขาดความรับผิดชอบในตัวเอง ไม่ค่อยมีความอดทนในการดำเนินชีวิต อยากมีเงินแต่ไม่อยากทำงาน และที่สำคัญอยากรวยทางลัด
นพ.กัมปนาทชี้ให้เห็นถึงสาเหตุหลักๆ ของการติดการพนันนั้นเกิดจาก ประการที่ 1 คือการได้รับแบบอย่างที่ไม่ดีมาจากครอบครัวหรือผู้เลี้ยงดู คือเรียกว่าอยู่กับสิ่งเหล่านี้มาตลอดทั้งชีวิต พ่อติดเหล้า แม่ติดหวย มีหรือที่ลูกจะไม่ติดเกมและการพนัน แบบอย่างที่ไม่ดีเหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งความหายนะของคนในครอบครัวในที่สุด
ประการที่ 2 คือ ลักษณะการจัดการกับการติดทั้งหลายของคนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ นั่นคือการฝึกเยาวชนให้เป็นคนมีระเบียบวินัย สามารถที่จะควบคุมตนเองให้ไม่ไปหลงงมงายหรือมัวเมาอยู่กับอบายมุข เช่น ไม่มีความสม่ำเสมอในการจัดการกับปัญหา (inconsistency) เรียกว่าไม่เอาจริงเอาจัง โมโห เกรี้ยวกราด ไม่พอใจที่ลูกติดการพนัน แต่ในที่สุดก็ปลง หรือเฉยๆ บอกว่าหมดหวัง ถ้าไม่ลุกขึ้นมาจัดการ ปัญหาก็จะยังอยู่อย่างนั้น ที่น่ากลัวกว่านั้น พ่อแม่หลายคนกลัวลูกจะเสียใจ ถูกขัดใจแล้วเครียด จึงยอมเครียดเอง บางทีก็เครียดจนตัวเองซึมเศร้า ฆ่าตัวตายไปก็มี
ประการที่ 3 คือ เรื่องของสังคม สิ่งแวดล้อมแย่ๆ ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีในการเล่นการพนัน จนเอื้ออำนวยความสะดวกในการเล่นการพนัน รวมกับความล้มเหลวของหน่วยงานภาครัฐในการจัดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก็เลยไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
สำหรับคำแนะ 7 แนวทางในการป้องกันเพื่อไม่ให้ติดการพนันบอล มีดังนี้
1. สถาบันครอบครัว ถือว่ามีความสำคัญที่สุดในการสร้างเกราะป้องกันให้เยาวชน การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดคงไม่เพียงพอ ถ้าไม่แสดงให้บุตรหลานเห็นว่าการเล่นการพนันเป็นตัวนำพาความหายนะมาสู่ครอบครัว ดังนั้นท่าทีของพ่อแม่ผู้ปกครองถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแสดงให้เห็นว่า เอาจริง อย่าทำแค่เพียงขู่ หรือปลงหรือเซ็ง และก็ปล่อยให้ผ่านไป เพราะนั่นจะเป็นตัวแสดงให้เห็นว่าพ่อแม่หรือผู้ปกครองจริงจังด้วย
2. การเอาจริงไม่จำเป็นต้องอาศัยความเกรี้ยวกราด ความรุนแรงก้าวร้าวก็ได้ วิธีการที่นุ่มนวลในการค่อยๆ ทำความเข้าใจ มีความอดทนในการแก้ปัญหาของบุตรหลานที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้บุตรหลานที่มีปัยหาเหล่านั้นยังคงอยู่ในสายตาของครอบครัวได้ ดีกว่าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาจนเตลิดเปิดเปิงไป
3. ร่วมกันช่วยคิดช่วยแก้ปัญหา เมื่อบุตรหลานเกิดปัญหาจากการเล่นพนัน ถ้าแก้ไม่ได้หรือคิดไม่ออกให้พยายามปรึกษาหน่วยงานภาครัฐที่สามารถให้คำปรึกษาได้ จะดีกว่า เช่น หน่วยงานทางด้านการดูแลสุขภาพจิต หน่วยงานของสถานศึกษา เป็นต้น
4. สนับสนุนให้มีการดึงผู้ติดการพนันออกไปสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น การออกกำลังกาย การสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมสัมพันธภาพอันดีให้กับคนในครอบครัว ลดการตำหนิติเตียน แต่หันมาชื่นชม เมื่อบุตรหลานที่ติดการพนันเหล่านั้นสามรถทำสิ่งที่ดีๆและสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้
5. สังคมและครอบครัวต้องร่วมมือกันสร้างค่านิยมใหม่ เช่น ค่านิยมของการพอเพียง การ ไม่คิดรวยทางลัด เพราะมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้น้อยกว่าการมีความขยันหมั่นเพียรอย่างแท้จริง ไม่ให้ความสำคัญกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นแบบอย่างของเยาวชนแต่ทำตัวไม่ดี ค่านิยมการสนใจกีฬาโดยไม่ต้องมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการเล่นการพนันฟุตบอล อย่างสม่ำเสมอ
6. ผู้ที่ติดการพนันฝึกเอาชนะใจของตนเองให้ได้บ่อยครั้งและชื่นชมตัวเองทุกครั้งที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้
7. เมื่อทำทุกวิถีทางไม่ได้แล้ว อีกหนทางหนึ่งที่พอจะช่วยบรรเทาได้ก็คือการมาปรึกษาบุคลากรทางด้านสุขภาพจิต มีหลายรายที่ได้รับการรักษา เช่นรับประทานยา การทำจิตบำบัดหาสาเหตุต้นตอของการลุ่มหลง การ ติดให้ได้ ก็ช่วยลดความรุนแรงของการติดพนันบอลลงได้พอสมควร