น้องเขยแม้วฮึ่ม “ครู” ตั้งตัวเป็นเจ้ามือพนันบอล “ไล่ออก”

“สมชาย” ฮึ่มหากพบข้าราชการครูคนใดตั้งตัวเป็นเจ้ามือพนันบอล ต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวน มีโทษสูงสุดขั้นไล่ออก ขณะที่ปลัด ศธ.ประชุมร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เผย อาจต้องทำหลักสูตรผู้ปกครอง เพราะพบพ่อแม่มีปัญหาติดเหล้า ติดการพนันจำนวนมาก เพื่อให้เรียนรู้ว่าเป็นพ่อแม่ที่ดีเป็นอย่างไร

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสข่าวในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร มีข้าราชการครูบางคนตั้งตัวเป็นเจ้ามือโต๊ะพนันบอล ว่า หากมีข้าราชการครูคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนันหรือเป็นเจ้ามือโต๊ะพนันบอล จะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพราะครูไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน และยิ่งการเป็นเจ้ามือพนันบอลยิ่งถือว่ามีความผิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนยังไม่มีข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากประชาชนมีข้อมูลขอให้ส่งมาให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ศพฐ.) หรือแจ้งมายังสายด่วนการศึกษาโทร.1579 เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป โดยโทษสูงสุดทางวินัยนั้น คือ การไล่ออก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีที่ต้องสืบสวนข้อเท็จจริงก่อน ส่วนที่มีการระบุว่าเด็กระดับประถมศึกษาก็เล่นพนันฟุตบอลแล้วนั้น ตนก็ขอฝากทุกๆ คนช่วยดูแล โดยเฉพาะผู้ปกครองขอให้ช่วยกันสอดส่อง อย่าให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตมากไปกว่านี้

วันเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เครือข่ายผู้ปกครอง ประธานนักเรียน ตัวแทนนักศึกษา ผู้พิพากษาสมทบศาลเด็กและเยาวชน ถึงมาตรการป้องกันการเล่นพนันบอลของนักเรียนนักศึกษา โดย ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัด ศธ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการวิเคราะห์ถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ซึ่งที่ประชุมต้องการให้เด็กและเยาวชนชมการแข่งขันฟุตบอล เพื่อเป็นกีฬาอย่างหนึ่งในการรู้แพ้รู้ชนะ และหากใครไม่ได้เชียร์บอลแต่ไปเล่นพนันแทนจะถูกลงโทษตามกฎหมาย โดยขณะนี้มีสารวัตรนักเรียนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ว่า มีนักเรียนและนักศึกษากลุ่มใดบ้างที่แอบไปเล่นพนันบอล ขณะเดียวกัน สารวัตรนักเรียนยังได้รับแจ้งจากผู้ปกครองด้วยว่า บุตรหลานของตนเองแอบไปเล่นพนันบอล แต่ไม่มีเงินไปจ่ายค่าพนัน ซึ่งผู้ปกครองเป็นห่วงว่าจะมีนักเลงมาทวงหนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อแนะนำว่า การเล่นการพนันจะไม่ใช้เงินสด แต่จะใช้บัตรเครดิตในการจ่ายเงิน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวถือเป็นหนี้ที่ผิดกฎหมายไม่สามารถทวงเงินได้ ดังนั้น หากบุตรหลานถูกขู่จากการใช้หนี้พนันดังกล่าวก็ให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการจับกุมทันที

ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ การเล่นพนันบอลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตสามารถถูกจับได้เช่นกัน เพราะขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ว่า เว็บไซต์ใดเปิดให้เล่นพนันบอล จะเข้าไปตรวจสอบไอพีจากตัวเครื่องว่ามาจากแหล่งใด ส่วนการส่ง SMS ทายผลฟุตบอลนั้นถือว่าผิดกฎหมายเช่นกัน สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่มีการเปิดให้ทายผลฟุตบอลนั้น ก็สามารถทำได้แต่จะต้องเป็นการทายผลช่วงการแข่งขันเฉพาะคู่สุดท้ายเท่านั้น และจะต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยในการขอให้มีการทายผลฟุตบอล เพราะขณะนี้ทราบว่ามีสื่อวิทยุบางคลื่นจัดรายการชี้ช่องยั่วยุ เพื่อให้เกิดการต่อรองในการพนันบอล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ หากพบเบาะแส ว่า มีเด็กและเยาวชนแอบไปเล่นพนันบอลให้แจ้งมาที่สายด่วน ศธ.1579 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“ศธ.อยากฝากไปถึงผู้ปกครองทุกคน ว่า ให้ช่วยดูแลบุตรหลานของตนเองให้ดี และต้องตักเตือนด้วยว่า การเล่นพนันบอลเป็นสิ่งไม่ดี เพราะจะก่อให้เกิดผลร้ายตามมา ซึ่งควรจะต้องชมการแข่งขันฟุตบอลให้เป็นกีฬาชนิดหนึ่ง และความสนุกสนาน นอกจากนี้ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะว่า ให้ศธ.เปิดหลักสูตรผู้ปกครอง เนื่องจากพบว่า พ่อแม่ในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่มีปัญหาติดเหล้า ติดการพนัน และบางครอบครัวมีปัญหาแยกทาง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลให้เด็กไม่ได้รับความอบอุ่น และอาจเกิดปัญหาความรุนแรงตามมาได้ ดังนั้น การมีหลักสูตรดังกล่าว จะทำให้ผู้ปกครองได้เรียนรู้ว่าการเป็นพ่อและแม่ที่ดีมีวิธีการอย่างไรบ้าง” ปลัด ศธ.กล่าว