xs
xsm
sm
md
lg

สภาการพยาบาลเร่งเอาผิดตัวการปล่อยคลิปฉาว จวกไร้สำนึก เตรียมเจรจาค่ายมือถือลงดาบ บ.ให้โหลด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาการพยาบาล เร่งเอาผิดตัวการเผยคลิปพยาบาลฉาว รวบรวมหลักฐานฟ้องภายใน 2 สัปดาห์ รุมจวกเครือข่ายผู้ให้บริการโหลดคลิปโป๊ไร้จิตสำนึก ทำธุรกิจเพื่อเงิน ผู้หญิงเด็ก ตกเป็นเหยื่อ ระบุ 50% เด็กโหลดตามคำยั่วยุ เตรียมเจรจาค่ายมือถือลงดาบบริษัทส่งข้อความ ด้าน “ไชยา” เตรียมฟ้องเอาผิดปกป้องศักดิ์ศรีพยาบาล ย้ำไม่มีพยาบาลคนไหนมีพฤติกรรมเสื่อมเสีย
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้กำลังสืบค้นต้นตอที่มาของผู้ที่เผยแพร่คลิปวิดีโอพยาบาลทางมือถือว่ามาได้อย่างไร โดยได้หมายเลขโทรศัพท์มาแล้ว ส่วนการฟ้องร้องผู้กระทำผิดนั้น คาดว่า จะรวบรวมหลักฐานข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องและสามารถสรุปได้ภายใน 2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียเดือดร้อนให้กับภาพลักษณ์ของพยาบาลที่มีอยู่กว่า 1 แสนคนทั่วประเทศ เป็นอย่างมาก อีกทั้งเรื่องนี้อยู่ในกระแสความสนใจของประชาชนด้วย

“ยังไม่เห็นภาพคลิปโป๊พยาบาล แต่ไม่เชื่อว่าเป็นพยาบาลตัวจริง เป็นเพียงการแต่งตัวให้เหมือนพยาบาลเท่านั้น อย่างไรก็ดี พฤติกรรมอย่างนี้ ไม่ควรทำไม่ว่ากับวิชาชีพใด เพราะเป็นการกระทำผิดทั้งศีลธรรม จริยธรรม จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง นอกจากนี้ อยากฝากให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องป้องปราบดูแลเอาจริงเอาจังจับผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษด้วย”ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิจิตร กล่าว

ด้านนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกรณีมีการเผยแพร่คลิปโป๊พยาบาล โดยหากพบว่า มีพยาบาลคนใดมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงก็จะสั่งให้มีการลงโทษขั้นร้ายแรงทันที แต่อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีพยาบาลคนใดที่จะมีพฤติกรรมดังกล่าว เพราะอาชีพนี้ถือเป็นอาชีพที่มีเกียรติ และผู้ที่จะเข้ามาทำงานในหน้าที่นี้ก็ล้วนแล้วแต่ต้องการเสียสละเพื่อสังคมทั้งสิ้น

“ส่วนที่จะมีการฟ้องร้องเครือข่ายผู้ให้บริการโหลดคลิปดังกล่าวหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้สั่งให้ทีมกฎหมายพิจารณาหาช่องทางทางกฎหมายในการเตรียมฟ้องร้องแล้ว เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีขององค์กร อีกทั้งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่หวังผลทางการค้าที่ไร้จิตสำนึก” นายไชยา กล่าว

ด้านนพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) กล่าวว่า ตามขั้นตอนตามกฎหมาย หากบริษัทเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ได้รับส่วนแบ่งจากการดาวน์โหลดเหล่านี้ ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่ต้องรับผิดชอบใดๆได้เลย เพราะธุรกิจเหล่านี้ถือว่ากระทบต่อศีลธรรมอันดีของสังคม

“หากมีผู้ร้องเรียนมาที่ สบท.ก็จะรับเรื่องนำไปหารือกับบริษัทเจ้าของสัญญาณโทรศัพท์แต่ละค่ายต่อไปให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เช่นเดียวกับที่มีการร้องเรียนเรื่อง 1900 ที่มีคนทำเซ็กซ์โฟน ซึ่ง สบท.ก็หารือไปยังองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยให้ระงับการให้บริการดังกล่าว เพราะธุรกิจเหล่านี้ก็เข้าข่ายการทำธุรกิจเพื่อเงิน โดยไม่สนใจสังคม” นพ.ประวิทย์ กล่าว

ขณะที่น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสิตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า การเชิญชวนจากข้อความในโทรศัพท์มือถือให้ดาวน์โหลดคลิป หรือภาพที่ยั่วยุทางเพศต่างๆ จะบอกว่าฟรี 15 วัน แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ต้องเสียเงินในการดาวน์โหลดอยู่ดี และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือบริษัทโฆษณาหากคนที่ได้รับข้อความเหล่านี้เป็นลูกหลานของคุณจะรู้สึกอย่างไร ต้นตอของบริษัทที่ส่งข้อความเหล่านี้ไม่ควรโลภมากทางธุรกิจจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป และสตรีเพศก็ตกเป็นเครื่องมือการหากินวันยันค่ำ

“ด้วยความที่เป็นเด็กอาจทำให้ไม่สามารถกรองข้อมูลได้ว่าอันไหนดีไม่ดี ยิ่งเป็นการส่งข้อความด้วยคำยั่วยุไปกระตุ้นวัยรุ่นแล้วจะนำพวกเขาไปสู่สิ่งที่เป็นอันตรายและไม่ปลอดภัยทางเพศกับเขาได้ ทั้งการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ท้องแท้งทิ้ง นำสู่ปัญหาครอบครัวปัญหาสังคมตามมา และเด็กวันนี้คืออนาคตของชาติในวันหน้า อนาคตของชาติจะดีได้อย่างไรในขณะที่ทุกวันนี้เด็กของเราโดนมอมเมาเช่นนี้”น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าว

นายฉัตรชัย เชื้อรามัญ ผู้อำนวยการขบวนการตาสับปะรด กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าเด็กที่ได้รับข้อความเหล่านี้จะดาวน์โหลดตามคำยั่วยุถึง 50% ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเด็กอีกกว่า 50% ที่ได้รับข้อความเหล่านี้จะไม่ได้ดูคลิป เพราะเพื่อนๆ ที่ดาวน์โหลดก็ส่งคลิปต่อมาให้เพื่อนที่ไม่ได้ดาวน์โหลด เท่ากับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมาก เพราะโดยธรรมชาติของเด็กวัยรุ่น ก็อยากรู้อยากเห็น ดังนั้นการตลาดจึงพยายามพุ่งกลุ่มเป้าหมายมาที่เด็ก

“ในเมื่อบริษัทที่ส่งข้อความย่อมทราบดีว่าตัวเองทำอะไร เจ้าหน้าที่ของรัฐควรดำเนินการอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ปล่อยกันไปเรื่อยเปื่อยเช่นนี้ อย่างประเทศจีนยังสามารถตรวจสอบอีเมลล์ทุกฉบับที่ส่งในจีนได้ แต่ในไทยกลับทำไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนโยบายแห่งรัฐทั้งสิ้นว่าจะเดินหน้าจริงจัง และมีทิศทางจะจัดการอย่างไร”นายฉัตรชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น