“บุญลือ” รับข้อเสนอ กมธ.บรรจุภาษามลายูกลางเป็น PAT 7 ในแอดมิชชัน เตรียมหารือกับ สกอ.เพื่อหาแนวทางดำเนินการ มอบนโยบาย มอ.ปัตตานี และ ม.นราธิวาสฯ จัดหลักสูตรรองรับเด็กจบชั้น 10 จากปอเนาะ ซึ่งเทียบเท่า ม.4 โดยอาจจัดหลักสูตร ป.ตรี 6 ปีก็ได้
นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) บรรจุภาษามลายูกลางเป็นภาษาต่างประเทศที่สอง ในการทดสอบศักยภาพทางวิชาชีพ หรือ PAT 7 ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือแอดมิชชันว่า ตนจะรับข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ถึงแนวทางในการบรรจุภาษามลายูกลางเป็น PAT 7 เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ และมาจากคณะบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการศึกษาเป็นอย่างดี จึงไม่ควรละเลยหรือเพิกเฉย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะทันนำมาใช้ในปีการศึกษาใด หรือมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นอกจากข้อเสนอดังกล่าวของ กมธ.แล้ว สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษา ศธ.ก็จะต้องรับฟังและนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาการศึกษาในทุกสังกัดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้มอบนโยบายให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จัดหลักสูตรรองรับนักเรียนที่ศึกษาจบชั้น 10 จากสถาบันปอเนาะในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในหลักสูตรสามัญศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อเด็กเรียนจบชั้น 10 จากสถาบันปอเนาะแล้ว ก็มักจะออกไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เพราะไม่มีสถาบันการศึกษาของไทยรองรับ
โดยสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 2 แห่งจะต้องไปคิดหาแนวทางที่จะรับเด็กกลุ่มนี้เข้าเรียน โดยอาจจะจัดหลักสูตรปริญญาตรีระยะเวลา 6 ปีก็ได้ ซึ่งในอดีตมหาวิทยาลัยรามคำแรงก็เคยรับนักเรียนจบชั้น มศ.3 เข้าเรียน
นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) บรรจุภาษามลายูกลางเป็นภาษาต่างประเทศที่สอง ในการทดสอบศักยภาพทางวิชาชีพ หรือ PAT 7 ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือแอดมิชชันว่า ตนจะรับข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ถึงแนวทางในการบรรจุภาษามลายูกลางเป็น PAT 7 เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ และมาจากคณะบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการศึกษาเป็นอย่างดี จึงไม่ควรละเลยหรือเพิกเฉย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะทันนำมาใช้ในปีการศึกษาใด หรือมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นอกจากข้อเสนอดังกล่าวของ กมธ.แล้ว สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษา ศธ.ก็จะต้องรับฟังและนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาการศึกษาในทุกสังกัดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้มอบนโยบายให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จัดหลักสูตรรองรับนักเรียนที่ศึกษาจบชั้น 10 จากสถาบันปอเนาะในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในหลักสูตรสามัญศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อเด็กเรียนจบชั้น 10 จากสถาบันปอเนาะแล้ว ก็มักจะออกไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เพราะไม่มีสถาบันการศึกษาของไทยรองรับ
โดยสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 2 แห่งจะต้องไปคิดหาแนวทางที่จะรับเด็กกลุ่มนี้เข้าเรียน โดยอาจจะจัดหลักสูตรปริญญาตรีระยะเวลา 6 ปีก็ได้ ซึ่งในอดีตมหาวิทยาลัยรามคำแรงก็เคยรับนักเรียนจบชั้น มศ.3 เข้าเรียน
