xs
xsm
sm
md
lg

“ยืดอกพกถุง” ลุยโฆษณาชุดใหม่ กองทุนโลกให้ B+ พร้อมงบ 3 พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เผย สำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก ได้ประเมินความสำเร็จของโครงการยืดอกพกถุงอยู่ที่  B+ พร้อมสนับสนุนงบประมาณต่ออีก 6 ปี จำนวน 98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3,234 ล้านบาท ระบุ ออกเคมเปญโฆษณาชุดที่ 2 เน้นรณรงค์ในการใช้ถุงยางอนามัย โดยให้ตระหนักถึงความเสี่ยงของคู่  มีระยะเวลาในการโฆษณาประมาณ 2 เดือน คือ ถึงเดือนก.ค.นี้ 

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์  กล่าวว่า  สำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลกได้ประเมินความสำเร็จของโครงการยืดอกพกถุงอยู่ที่  B+  ทำให้สนับสนุนงบประมาณต่ออีก 6 ปี จำนวน 98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3,234 ล้านบาท จากที่โครงการดังกล่าวจะจบลงในเดือน ก.ย.นี้ 

ทั้งนี้ โครงการยืดอกพกถุง ออกเคมเปญโฆษณาชุดที่ 2 เน้นรณรงค์ในการใช้ถุงยางอนามัย โดยให้ตระหนักถึงความเสี่ยงของคู่  มีระยะเวลาในการโฆษณาประมาณ 2 เดือน คือ ถึงเดือน ก.ค.นี้  ซึ่งโฆษณาชุดดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่องจากที่ปีก่อนเน้นให้ประชาชนเปลี่ยนทัศนคติให้ยอมรับเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่จะมีเพศสัมพันธ์ 

“กังวลนิดหน่อยว่า โฆษณาชุดใหม่จะถูกมองว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอก และถูกมองว่า ทำให้คนไม่กลัวเรื่องโรคเอดส์อีก แต่วัตถุประสงค์จริงๆ คือ โรคเอดส์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และอยากจะใส่ข้อความด้วยซ้ำว่า เพศสัมพันธ์มีความเสี่ยง กรุณาสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์  ทั้งนี้ หากมีการท้วงติงก็พร้อมที่จะชี้แจง”

นายนิมิตร์ กล่าวต่อว่า  เมื่อวัดผลการรณรงค์ พบอัตราการใช้ถุงยางอนามัยในเยาวชนดีขึ้นประมาณ  50%  กว่า แต่การใช้ถุงยางอนามัยในคู่สามี ภรรยา ยังมีปริมาณต่ำ และยังเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง  เนื่องจากผู้หญิงในวัฒนธรรมไทยไม่สามารถต่อรองเรื่องดังกล่าวกับผู้ชายได้
 
ด้าน นพ.อนุพงศ์  ชิตวรากร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า  ต้องยอมรับว่า สธ.รณรงค์การชะลอการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นไม่สำเร็จ เพราะข้อมูล 10 ปี ก่อน พบว่า เยาวชนชายอายุ 17 ปี มีเพศสัมพันธ์ เพียง 10% แต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 25% ส่วนนักเรียนหญิงจาก 3% เป็น 10%  โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอาชีวะพบเด็กชายยอมรับว่า มีเพศสัมพันธ์แล้วถึง 40%  และหญิงยอมรับถึง 30%  นอกจากนี้  กองทุนโลกยังได้จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อถุงยางอนามัยคุณภาพ เสริมจากที่ สธ.และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติซื้อด้วย

“แม้ผลของการโฆษณายืดอกพกถุง ยังไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติ คนได้ทั้งหมด ต้องอาศัยระยะเวลา แต่โฆษณาจะทำให้เนื้อหาต่อเนื่องกัน เมื่อเข้าใจว่าเพศสัมพันธ์มีความเสี่ยง ก็จะยอมรับการใช้ถุงยางอนามัย” นพ.อนุพงศ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น