xs
xsm
sm
md
lg

อย่าให้อาหารเสริมเป็น “พิษ”/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรื่องโดย...นพ.กฤษดา ศิรามพุช, พบ.(จุฬาฯ)
ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์อายุรวัฒน์
(American Board of Anti-aging medicine)
drkrisda@gmail.com


เดี๋ยวนี้ตัวจริงหรือตัวปลอมดูกันยากเต็มทีนะครับ บางคนว่าเป็นตัวจริงของจริงแล้วก็ปรากฏว่าวันดีคืนดีก็กลายร่างเปลี่ยนสีเห็นดีกับกงจักรไปได้อย่างน่าประหลาด มีหลายท่านที่ได้กรุณาสละเวลามาสอบถามกับตัวผมเองที่สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติว่ามีผู้หวังดีมาเสนออาหารเสริมให้ หรือโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังขายอาหารเสริมให้ราคานับหมื่นบาท แล้วเป็นอย่างไร มันดีเลิศเลอสมกับราคาค่าเงิน สมค่าราคาคุยหรือไม่ ซึ่งทั้งนี้ผมก็ได้กราบเรียนท่านไปแล้วว่าอาหารเสริมนั้นไม่จำเป็นต้องปักใจเลือกกับพรรคใด เอ๊ย! ......ยี่ห้อใดเลย ด้วยว่าไม่มียี่ห้อใดที่สมบูรณ์เพอร์เฟ็กไปหมดทุกบริษัทหรือโรงพยาบาลครับ โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมี “ของดี” ของเขาไว้ให้อวดเป็นโชว์พีซขึ้นหน้าขึ้นตา ราวกับไปอุดรฯก็ต้องไปกินไข่กะทะเจ้าเก่า หรือไปสุพรรณฯก็ต้องไปกินปลาเผาของขึ้นชื่อกัน คงไม่ไปเพื่อกินปูผัดผงกะหรี่หรือราเม็งเป็นแน่ เช่นเดียวกับโรงพยาบาลเอกชนที่อาจมีห้องรับแขกสวยๆไว้ดึงดูดใจให้เห็นดีงาม แต่แท้จริงโรงพยาบาลที่เครื่องมือพร้อมดีที่สุดคือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยของรัฐนี่เองครับและที่สำคัญคือราคาไม่แพงด้วย ไม่ต้องเสียเงินทองไปซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็น “กระผีก” ไม่ใช่แก่นแท้ หรือ(จำใจ)อุทิศเงินค่ารักษาส่วนหนึ่งไปให้กับค่าล็อบบี้สวยๆ และยี่ห้อของสถานพยาบาลที่เกร่อราวกับเซเว่นอีเลฟเว่น

ของที่ดูสวยแต่รูปเหล่านี้จัดเป็นสิ่ง “หวือหวา” ที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ได้ไม่นานนักดอกครับ สู้ของจริงไม่ได้คือตัวคุณเองนั่นแหละที่เป็นหมอที่ดีที่สุด ไม่ใช่ผมหรือหมอท่านใดก็ตาม เพราะท่านคือคนเดียวที่อยู่กับตัวเองมาตั้งแต่ในท้องแม่จนถึงเชิงตะกอน (ถ้าลูกหลานไม่ได้รักมากขนาดพาไปเผาทั้งเป็น) แต่ที่เราหลงไปกับสิ่งยั่วกิเลสเหล่านี้ก็ด้วย “ใจ” เราเท่านั้นแหละครับ จะร้องเพลงว่าใจเรามันง่ายเองก็ใช่ที่เพราะที่จริงแล้วมันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ทุกคนที่ “รักตัวกลัวตาย” โดยสัญชาตญาณนี้ได้ถูกโปรแกรมอยู่ในสมองส่วนต่ำมานานปีดีดักตั้งแต่ครั้งเริ่มสร้างมนุษย์แล้ว ซึ่งมันก็ช่วยเราให้รอดพ้นภยันตรายมามาก เช่นไม่ถูกคนป่าเผ่าอื่นไล่ล่ากินเล่น หรือพอถึงสมัยนี้ก็เอาตัวรอดได้ไม่ถูกใช้กำลังสลายม็อบ เป็นต้น

แต่บางครามันก็ทำให้เราตกที่นั่งลำบากได้เช่นกันโดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น เริ่มมองเห็นความแก่กับความตายมายืนออรออยู่ตรงหน้า ไอ้ครั้นจะถามสาวแบบท่านเซอร์พอล ณ สี่เต่าทองว่า “ถ้าฉันอายุหกสิบสี่(แล้วจะยังรักอยู่ไหม)?(When I’am sixty-four)” ก็กลัวจะถูกหาว่าไม่เจียมสังขารและกระเป๋าสตางค์ ด้วยว่าสาวเดี๋ยวนี้ถือคติอายุไม่เกี่ยงขอให้เลี้ยงหนักเป็นพอ แต่ถ้าได้เสื้อผ้าหน้าผมดูหนุ่มตึงไปด้วยได้ก็จะยิ่งดีหนัก ส่วนคุณสุภาพสตรีก็จะกลัวว่าเมื่อเข้าวัยทองล่องชาดอย่างนี้แล้วจะไม่เป็นคนที่สุขภาพดีดังเดิม ด้วยรู้สึกหดหู่ใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของร่างกายทั้ง กระดูกหาย กายเหี่ยว และเปล่าเปลี่ยวใจไร้คนข้างกาย ชวนให้ใจหายคิดถึงความตายมากขึ้น แล้วสัญชาตญาณรักตัวกลัวตายก็พรายผุดออกมา ครั้นเมื่อหนักข้อเข้าก็สูงท่วมร่วมกันบดบังการตัดสินใจที่เป็นเหตุผลไปสิ้น ด้วยความกลัวตายที่กวนอาสวกิเลสให้พลุ่งขึ้นนี้เองที่ทำให้พากันไปเสาะแสวงหา “ยากันแก่” หรือไม่ก็ “ยากันตาย” กันอย่างสนุกสนาน ที่ไหนว่าดีก็ไปหมดราวกับถูกสะกดจิต ให้ไปสะเดาะเคราะห์ เสาะหามวลสารศักดิ์สิทธิ์ใดๆมาคุ้มครอง หรือใครให้ฉีดสิ่งใดก็ยอมฉีดด้วยแรงขับที่อยากกลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้งหรืออย่างน้อยให้วัยมันร่วงโรยไปช้าหน่อยก็ยังดี

ดังนั้นสิ่งที่ง่ายได้ใจของคนส่วนใหญ่มากที่สุดก็คือเรื่องของวิตามินเสริม หรืออาหารเสริมครับ ด้วยไม่ต้องเสี่ยงชีวิตต่อความเจ็บปวดใดๆ แค่เพียงเปิด(กระเป๋าตังค์) สั่งยา แล้วก็อ้าปากกินเข้าไปเท่านั้น หลายท่านคงคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องเสี่ยงเดือดร้อนแต่อย่างใด ไปนั่งๆ นอนๆ แถวสนามหลวงยังเสี่ยงกว่า แต่ที่จริงแล้วนั้นถ้าเลือก(กิน)ได้ไม่ดีมันจะมีโทษมากกว่าการผ่าตัดหรือฉีดเอาสารแปลกๆ เข้าไปในร่างกายเสียอีก โดยข้อนี้ฝรั่งเขารู้กันมานานปีดีดักหนาแล้วว่าวิตามินสังเคราะห์ประเภทที่ซื้อจากห้างขายส่งใหญ่ๆในอเมริการาคาถูกยั่วใจ ไหหนึ่งใหญ่กินกันได้ทั้งครอบครัวนั้นมันต้องดูให้ดีด้วยว่าส่วนใหญ่ผู้ผลิตเขามักใช้วิตามินแบบ “สังเคราะห์” ราคาถูกเข้ามารวมๆ กัน หรือใช้แหล่งของสารอาหารที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจนัก เช่นเม็ดแคลเซียมเสริมกระดูกก็ขุดเอามาจากหินปูนที่มีอยู่ดาษดื่นซึ่งเป็นแหล่งอันอุดมของสารตะกั่วและปรอททั้งหลายด้วยเช่นกันหรือบางทีก็เอากระดูกวัวควายที่มีอยู่มากหลายนี้มาป่นเอาตะกอนหินปูนเนื้อกระดูกนี้มาอัดเม็ดได้เป็นแคลเซียมเสริมเม็ดใหญ่สวยชวนซื้ออยู่ในห้าง
รูปที่ 1 แค่ได้รับประทานผักใบเขียวจัดวันละ 5 กำมือและผลไม้สดอีกวันละ 3 กำมือ ก็จะได้สมดุลโภชนาการเพียงพอโดยที่ไม่ต้องรับประทานอาหารเสริมแล้ว
นอกจากนั้นยังมีตัวอย่างเครื่องสำอางค์บำรุงความงามความงอมอีกมากที่ใช้กระบวนการผลิตอันเปี่ยมด้วยคุณภาพ(ต่ำ) เช่นว่านี้ เช่นครีมวิตามินอียี่ห้อดังที่เคยเป็นที่นิยมของบรรดาไฮโซไฮซ้อเมื่อสักราวสิบปีก่อน ที่ไม่ว่าใครไปดินแดนแลนด์จิงโจ้นี้ก็ต้องไม่วายถูกฝากซื้อ หรือต้องซื้อมาฝากกันทากันให้ตัวมันแผล็บไปด้วยว่ากระปุกหนึ่งนั้นใหญ่หนักหนาชวนทากันได้ตั้งแต่อาเหล่ากง, เหล่าม่า, อาอี๊ยันอาตี๋ แต่ที่จริงนั้นราคาที่มันถูกก็เพราะว่าทำจากวิตามินอีสังเคราะห์ซึ่งราคาถูก และคุณภาพนั้นก็ถูกด้วยเช่นกัน เรียกว่าถ้าใครตาถึงเลือกมาก็น่าสงสารอาจพาลถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้นก็อาจสรุปไว้ได้คร่าวๆไว้ให้คุณผู้อ่านที่รักทั้งหลายได้เป็นหมออายุรวัฒน์ด้วยตัวเอง เลือกหาอาหารเสริมกินเองได้ จึงขอให้ “ธรรมนูญอาหารเสริม” ที่ผมตั้งไว้สี่ข้อ เอาไว้จับผิดคำต่อคำ เอ๊ย... เอาไว้ส่องดูข้างฉลาก ดังต่อไปนี้ครับผม

1) เลือกอาหารเสริมชนิดที่เป็นธรรมชาติที่สุด โดยพลิกดูข้างฉลากหาถ้อยแถลงว่า “Natural” หรือ “Bio-identical” ซึ่งล้วนแปลว่าจากธรรมชาติสะอาดสิ้นทั้งอินทรีย์น่าจะกินได้อย่างสนิทใจ
2) เลือกชนิดที่มีปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่สักแต่มีอักษรเอถึงแซท แปดเปื้อนไปด้วยสระพยัญชนะมากๆจึงจะดี เพราะจากการสำรวจแล้วนั้น อาหารเสริมแบบจับฉ่ายเม็ดเช่นนี้มักมีวิตามินอยู่ครบจริงแต่มีในปริมาณที่มดกินเท่านั้นคือแค่ 1 มิลลิกรัมบ้าง หรือ 1 ไมโครกรัมบ้าง ที่เหลือเป็นแป้งชวนแห้งเหี่ยวใจทั้งนั้น
3) เลือกชนิดที่จับคู่กันอย่างเหมาะสม ข้อนี้สำคัญมากด้วยว่าหลักการทำงานของอาหารเสริมคือ “ทำงานเป็นทีม” ไม่แย่งตัวกันเด่นเหมือนนักเตะทีมเรือใบ เอ๊ย...ไม่ทำงานเด่นแต่ตัวใดตัวหนึ่ง เช่นวิตามินเอนั้นก็ไม่ได้มีแต่เบต้าแคโรทีนแต่ยังมีเพื่อนพ้องน้องสนิทอีกราวห้าร้อยตัว ซึ่งที่จริงแล้วถ้ากินจากอาหารธรรมชาติได้ก็จะดีสุด แต่ถ้ากินไม่ได้ก็ต้องเลือกอาหารเสริมชนิดที่เขาช่วยจับคู่ให้เราดีๆหน่อย เช่น วิตามินเอ,ซีและอี หรือ แคลเซียมต้องกินร่วมกับแมกนีเซียมมันจะได้ช่วยกันดูดซึมเข้ากระดูก หรือน้ำมันปลาก็ต้องมีอีพีเอและดีเอชเอ (โอเมก้าสาม) อยู่เพียงพอกันดี
4) เลือกชนิดที่ไม่ “ถูกเกินไป” หรือ “แพงเกินไป” โดยอาหารเสริมที่ดีนั้นก็เป็นดังที่บอกไปว่าดูกระปุกใหญ่ ไหโต โลละไม่กี่ตังค์ไม่ได้ นอกจากเราอยากได้ของแท้แบบเสิ่นเจิ้นแต่ก็ไม่จำเป็นต้องแพงโลดชวนละเหี่ยเพลียใจ โดยไม่จำเป็นต้องเน้นยี่ห้อฝรั่งโก้หร่าน ขอให้ดูที่ราคาเหมาะสมกลมกลืนกับพิษเศรษฐกิจที่ชวนจิตตกไปหมดตั้งแต่นายกฯไปจนถึงยาจก


เมื่อได้ธรรมนูญครบทั้งสี่ข้อแล้วก็ไม่ต้องลงประชามติอะไรให้เปลืองงบอีก ด้วยว่าตอนนี้ก็เหมือนท่านได้ผ่านหลักสูตรอาหารเสริมสำหรับผู้เริ่มต้นแล้ว แต่เมื่อต้องออกสนามจริงอาจต่างออกไปสักหน่อย เมื่อไปพบเด็กกะเหรี่ยงขายยา เอ๊ย...เภสัชขายยานั้น อาจถึงกับตื่นตะลึงเมื่อเห็นขวดวิตามินกองตั้งเป็นนั่งร้าน ก็ขอให้ท่านเอื้อนเอ่ยมธุรวาจาขอนำพาวิตามินขวดสวยยั่วใจนั้นลงมาดูทีละขวด แล้วค่อยพินิจดูส่วนประกอบ ซึ่งผมขอให้ช่วยกันดูลึกละเอียดลงไปสักหน่อยนะครับ จะใช้หลายตาช่วยกันดูก็ได้ว่าตรงกับธรรมนูญของเราไหม อย่าเพิ่งไปกังวลกับสายตาชอบกลของใครต่อใคร ด้วยว่าสุขภาพคุณเองนั้นสำคัญที่สุดนะครับ
รูปที่ 2 ปัจจุบันเราไม่ได้กินอาหารเพื่อป้องกัน “โรคขาดสารอาหาร” อย่างแต่ก่อน  แต่เราต้องการกินเพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ  จึงควรรับประทานให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม  หากจะรับประทานอาหารเสริมก็ขอให้อย่าลืมว่าต้องรับประทานอาหารสดด้วยครับ
ทั้งนี้ยังมีวิตามินและอาหารเสริมอีกมากที่(จำต้อง)ตกสำรวจไว้ ณ ที่นี้ ด้วยว่าถ้าขืนใจกันนำมาใส่จนหมด ก็จะกลายเป็นตำราขนาดใหญ่ชวนใช้ก่อบ้านแทนอิฐบล็อก แต่สิ่งที่เลือกนำมาให้ท่านทั้งหลายดูนั้นก็นับว่าเป็นส่วนใหญ่ของอาหารเสริมที่เราใช้กันอยู่เกือบทั้งหมดแล้วครับ ส่วนพวกอาหารเสริมที่เอ็กซอติกสักหน่อยจำพวก นอแรด, ลึงค์ช้าง, เขากวาง ,ว่านเจ็ดสี, สังกรณี-ตรีชวา และอะไรต่อมิอะไรต่างๆ นานาที่ชวนนึกถึงพิพิธภัณฑ์เรื่องแปลกของริปลีย์นั้นอาจต้องขออนุญาตละไว้คุยกันหลังฉากหรือในคราวต่อๆ ไปนะครับ แต่ถ้าท่านได้ธรรมนูญอาหารเสริมดังว่านี้ไว้แล้ว ก็หวังว่าท่านผู้อ่านและทุกท่านที่ได้เคยถามผมมาจะพอได้แนวทางสำหรับการรู้ทันอาหารเสริม ให้อาหารเสริมช่วยเสริมสุขภาพได้จริงๆ ไม่ใช่กลายเป็นอาหารเสริม(โรค) มหาภัยแทนนะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น