xs
xsm
sm
md
lg

ร้อนอีก 1 องศา ไทยเจอ “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” 3 องศา กทม.จมบาดาล เตือนสร้างรถใต้ดินต้องระวัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิชาการ ม.เกษตรฯ ติงรัฐ เบรกรถไฟฟ้าใต้ดินก่อนจะสิ้นราชธานี ชี้ หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้นเพียง 1 องศา ประเทศไทยจะเกิดซูเปอร์ไต้ฝุ่นไม่แพ้นาร์กีส และถ้าเพิ่ม 3 องศากรุงเทพฯจะจมบาดาล และจะมีรถไฟฟ้าไปทำไม วอนรัฐผลักปัญหาโลกร้อนเป็นนโยบายชาติ เตรียมพร้อมตั้งรับอย่างจริงจัง

ดร.วิเชียร กีรตินิจการ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรรมการสิ่งแวดล้อม บรรยายในงาน “TCELS Day” จัดโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ในหัวข้อ “ประเทศไทยกับ มหันตภัยโลกร้อน” ว่า ในแต่ละวันมนุษย์มีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนทั้งจาก การขับรถ เปิดแอร์ ไดร์ผม กินข้าว ฯลฯ วิถีชีวิตเหล่านี้เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 200 ปี ที่ผ่านมา มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ออกมา 250 พีพีเอ็ม แต่ในขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 380 พีพีเอ็มซึ่งเป็นสาเหตุทำให้โลกร้อนขึ้นถึง 0.8 องศา

“ขณะนี้โลกร้อนขึ้นเพียง 0.8 องศา เราได้เห็นพายุไซโคลนนาร์กีสในพม่า เราเห็นพายุเฮอริเคนที่ทำลายล้างเมืองนิวออร์ลีนส์ มลรัฐหลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา เราเห็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศออสเตรเลีย ผมไม่ได้พูดขึ้นลอยๆ แต่ประจักษ์พยานเหล่านี้มีให้เห็น ขณะที่เมืองไทยยังไม่มีแผนการตั้งรับอย่างเป็นรูปธรรม”

ดร.วิเชียร ฉายให้เห็นภาพของโลกร้อนทีละองศาว่า หากโลกร้อนขึ้น 1 องศา ทุ่งหญ้าเพื่อการปศุสัตว์ของอเมริกาจะกลายสภาพเป็นทะเลทรายอีกครั้งจากที่เมื่อหลายพันปีก่อนเคยเป็น น้ำจืดในทวีปเอเซียจะหายไป 1 ใน 3 ไทยจะเกิดซุปเปอร์ไต้ฝุ่น หน้าดินจะถูกพายุพัดจนเสื่อมโทรมความอุดมสมบูรณ์จะเปลี่ยนเป็นความแห้งแล้ง ถ้าโลกร้อนขึ้น 2 องศา หมีขาวขั้วโลกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดสิ่งมีชีวิตหลายชนิดต้องอพยพย้ายถิ่นฐานขึ้นไปทางตอนเหนือ หมู่หลายแห่งในอินโดนีเซียจะจมหายไปในทะเล โดยเฉพาะเกาะมัลดีฟ ปะการังในทะเลจะสูญพันธุ์ น้ำแข็งขั้วโลกจะละลายมากขึ้น กล่าวคือ 1 ปี ละลาย 20 กิโลกเมตร หรือประมาณ 4 เท่าของพื้นที่ประเทศไทย และเพียง 2 วัน ของน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย เท่ากับเราสามารถใช้น้ำในกรุงเทพฯได้ถึง 1 ปี และในขณะที่ทั่วโลกเดือดร้อน แต่แคนาดาจะได้รับผลพวงในทางที่ดีขึ้นคือจะเกิดป่าใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ที่ประเทศแคนาดา

ดร.วิเชียร กล่าวว่า ถ้าองศาความร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 3 องศา ปารีสจะกลายเป็นเมืองร้าง คนแก่จะร้อนตาย น้ำทะเลจะสูงขึ้น 1 เมตร กรุงเทพฯ จะจมบาดาล พืชผลเกษตรกรรมจะเสียหายอย่างหนัก แมลงจะระบาดก่อโรคพันธุ์ใหม่ที่รักษายากขึ้น แหล่งน้ำบาดาลจะปนเปื้อนน้ำทะเล ไทยจะประสบปัญหาข้าวหายาก หมากไม่มีจะกิน ซึ่งรุนแรงกว่าข้าวยากหมากแพงหลายเท่าตัว เมื่อถึงวันนั้น จะเกิดการแย่งชิงน้ำครั้งใหญ่ แรงงานต่างด้าวจะทะลักมาแย่งทรัพยากรของไทยจนเกิดการจลาจล และถ้าโลกร้อนพุ่งไปถึง 4 องศา น้ำจะท่วมเวนิซ หาดสแกนดิเนเวียนจะเป็นเหมือนพัทยา แม่น้ำคงคาจะเหือดแห้ง ประชาชน 1 พันล้านคนจะเดือดร้อน มหานครนิวยอร์คจะโดนเฮอริเคนครั้งใหญ่จะกลายเป็นเมืองบาดาล บางแห่งมีน้ำท่วมสูงถึง 7.6 เมตร

“จะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งเมื่อหันกลับมามองเมืองไทย ผู้นำประเทศเร่งแต่จะผลักดันโครงการ 5 แสนล้าน โดยอ้างว่าเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่การทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไม่เคยมีการนำประเด็นเรื่องโลกร้อนไปพูดเลยว่าจะส่งผลให้โลกร้อนแค่ไหน และเมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้นเพียง 3 องศา กรุงเทพฯ ก็จมแล้ว ตรงนี้ไม่เคยมีการพูดเลย ถ้าเป็นไปได้เอาเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปทำประโยชน์อย่างอื่นดีไหมที่จะรักษาราชธานีและผืนแผ่นดินแห่งนี้ไว้ให้ลูกหลาน” ดร.วิเชียร กล่าวและว่า รัฐบาลควรผลักดันปัญหาโลกร้อนเป็นนโยบายชาติต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น