เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจพบหัวหน้าครัวเรือนกำลังมีทุกข์เรื่องค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ส่วนข่าวที่ทำให้หัวหน้าครัวเรือนกระทบความรู้สึกมากที่สุดเป็นข่าวการหมิ่นต่อสถาบัน แนะเร่งทุกฝ่ายเข้ามาเยียวยาความรู้สึกของประชาชน
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจมหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ เผยผลสำรวจเรื่อง ความรู้สึกของหัวหน้าครัวเรือนต่อข่าวสารประจำวันและสภาวะเศรษฐกิจครัวเรือน กรณีศึกษาหัวหน้าครัวเรือนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต จำนวน 2,396 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 22-29 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า 96.2% ติดตามข่าวสารประจำวันในช่วง 30 วันนั้น ข่าวที่ทำให้หัวหน้าครัวเรือนรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด ข่าวการหมิ่นต่อสถาบัน 95.3% รองลงมา ข่าวแผ่นดินไหวในจีน 94.4% ข่าวพายุถล่มที่พม่า 90.8% ข่าวคนไทยทะเลาะกัน 84.3% ข่าวเศรษฐกิจตกต่ำ 83.9% ข่าวสินค้าบริการที่สูงขึ้น 80.4% ข่าวอุบัติเหตุช่วงเทศกาล 75.4% ข่าวปัญหาเด็กและเยาวชน 66.2% ข่าวอาชญากรรมต่างๆ 63.8% และ 28.6% ระบุอื่นๆ เช่น ข่าวปฏิวัติรัฐประหาร ข่าวคนยากจน เป็นต้น
ครั้นถามถึงรายได้ของครัวเรือนเวลานี้ เทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 พบว่า กว่าครึ่งหรือ 52.1% ระบุรายได้ลดลง รายได้เท่าเดิม 40.1%และรายได้เพิ่มขึ้น เพียง 7.8% พร้อมกันนี้ยังระบุด้วยว่าหัวหน้าครัวเรือนจำนวนมากหรือร้อยละ 43.2 กำลังมีทุกข์ในระดับมากถึงมากที่สุดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ร้อยละ 34.5 มีทุกข์ระดับปานกลาง และร้อยละ 22.3 มีทุกข์ระดับน้อยถึงน้อยที่สุด
ซึ่งผลการสำรวจครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า ข่าวที่ทำให้หัวหน้าครัวเรือนส่วนใหญ่สะเทือนใจกระทบความรู้สึกมากที่สุดเป็นข่าวการหมิ่นต่อสถาบัน มากกว่าข่าวแผ่นดินไหวในจีน พายุถล่มที่พม่าและมากกว่าข่าวเศรษฐกิจที่กำลังเป็นทุกข์ของประชาชนขณะนี้เสียอีก จึงอยากให้ทุกฝ่ายต้องเร่งเข้ามาเยียวยาความรู้สึกของประชาชน และช่วยกันรณรงค์ปกปักษ์รักษาสถาบันหลักของประเทศให้อยู่ในจิตวิญญาณ และการแสดงออกในทางปฏิบัติของประชาชนทุกหมู่เหล่าตลอดไป
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจมหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ เผยผลสำรวจเรื่อง ความรู้สึกของหัวหน้าครัวเรือนต่อข่าวสารประจำวันและสภาวะเศรษฐกิจครัวเรือน กรณีศึกษาหัวหน้าครัวเรือนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต จำนวน 2,396 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 22-29 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า 96.2% ติดตามข่าวสารประจำวันในช่วง 30 วันนั้น ข่าวที่ทำให้หัวหน้าครัวเรือนรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด ข่าวการหมิ่นต่อสถาบัน 95.3% รองลงมา ข่าวแผ่นดินไหวในจีน 94.4% ข่าวพายุถล่มที่พม่า 90.8% ข่าวคนไทยทะเลาะกัน 84.3% ข่าวเศรษฐกิจตกต่ำ 83.9% ข่าวสินค้าบริการที่สูงขึ้น 80.4% ข่าวอุบัติเหตุช่วงเทศกาล 75.4% ข่าวปัญหาเด็กและเยาวชน 66.2% ข่าวอาชญากรรมต่างๆ 63.8% และ 28.6% ระบุอื่นๆ เช่น ข่าวปฏิวัติรัฐประหาร ข่าวคนยากจน เป็นต้น
ครั้นถามถึงรายได้ของครัวเรือนเวลานี้ เทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 พบว่า กว่าครึ่งหรือ 52.1% ระบุรายได้ลดลง รายได้เท่าเดิม 40.1%และรายได้เพิ่มขึ้น เพียง 7.8% พร้อมกันนี้ยังระบุด้วยว่าหัวหน้าครัวเรือนจำนวนมากหรือร้อยละ 43.2 กำลังมีทุกข์ในระดับมากถึงมากที่สุดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ร้อยละ 34.5 มีทุกข์ระดับปานกลาง และร้อยละ 22.3 มีทุกข์ระดับน้อยถึงน้อยที่สุด
ซึ่งผลการสำรวจครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า ข่าวที่ทำให้หัวหน้าครัวเรือนส่วนใหญ่สะเทือนใจกระทบความรู้สึกมากที่สุดเป็นข่าวการหมิ่นต่อสถาบัน มากกว่าข่าวแผ่นดินไหวในจีน พายุถล่มที่พม่าและมากกว่าข่าวเศรษฐกิจที่กำลังเป็นทุกข์ของประชาชนขณะนี้เสียอีก จึงอยากให้ทุกฝ่ายต้องเร่งเข้ามาเยียวยาความรู้สึกของประชาชน และช่วยกันรณรงค์ปกปักษ์รักษาสถาบันหลักของประเทศให้อยู่ในจิตวิญญาณ และการแสดงออกในทางปฏิบัติของประชาชนทุกหมู่เหล่าตลอดไป
