พม่าปรับแผนใหม่ให้ทีมแพทย์ไทยรักษาผู้ป่วยในเมืองเล็กๆ ห่างจากกรุงย่างกุ้ง 200 กม. เผยทุกคนขวัญกำลังใจดี พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทุกสถานการณ์
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (อีเอ็มเอส) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากทีมแพทย์ไทยซึ่งเดินทางไปสหภาพพม่าเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ โดยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคทั้ง 30 คน เข้าพักค้างคืนที่นครย่างกุ้ง 1 คืนเพื่อจัดสัมภาระ ทั้งอาหารเพื่อการยังชีพ ยาและเวชภัณฑ์ สำหรับการปฏิบัติงานในพม่าเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้ ทางการพม่ายังเปลี่ยนจุดให้บริการเป็นเมืองเล็กๆ ใกล้จุดศูนย์พายุไซโคลนนาร์กีส คือ เมืองโมเมี๊ย และเมืองลาโปทา บริเวณปากแม่น้ำอิรวดี โดยรักษาผู้เจ็บป่วยในศูนย์พักพิงชั่วคราว (แคมป์) และโรงพยาบาลเล็กๆ ของพม่า
นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เดิมนั้นทางการพม่าได้แจ้งกับ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.ที่เดินทางไปหารือเตรียมการล่วงหน้าเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ว่า จะให้ทีมแพทย์บริการรักษาผู้เจ็บป่วยที่เมืองกงเชียงกอนและเมืองจ้าวตาล ซึ่งเดินทางด้วยรถยนต์เพียง 2 ชั่งโมง แต่พื้นที่ใหม่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 200 กม. เส้นทางคมนาคมยากลำบาก ต้องใช้เวลาเดินทาง 6 ชม. อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับเปลี่ยนจุดให้บริการผู้ประสบภัยใหม่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับทีมแพทย์ไทย เพราะทุกคนเตรียมตัว เตรียมใจรับมือกับความไม่แน่นอนอยู่แล้ว
“ได้รับแจ้งว่า ทั้ง 30 ชีวิตมีขวัญกำลังใจ จุดให้บริการรักษาพยาบาลที่พม่ากำหนดใหม่ ทีมแพทย์ไทยแบ่งออกเป็น 4 ทีม คืนนี้จะนอนเต็นท์ หรืออาจจะเป็นศาลาวัด เพราะจะถึงพื้นที่ช่วงค่ำๆ แต่ทุกคนมีสัมภาระเหมือนลูกเสือไปออกค่ายคือ ผู้หญิงก็มีผ้าถุงสำหรับอาบน้ำ มีเตาแก๊สสำหรับหุงข้าว มีอาหารกึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่มพร้อม มีถุงนอนเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียว ขอญาติพี่น้องและประชาชนชาวไทยไม่ต้องเป็นห่วง ทีมแพทย์พร้อมเป็นตัวแทนคนไทยนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปดูแลเพื่อนบ้านที่เดือดร้อน” นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ทีมแพทย์ได้รับการดูแลอย่างดีจากทางการพม่า และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศพม่า โดยมีการเปิดสายด่วนระหว่างเอกอัครราชทูตไทยประจำสหภาพพม่า และหน่วยแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (อีเอ็มเอส) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากทีมแพทย์ไทยซึ่งเดินทางไปสหภาพพม่าเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ โดยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคทั้ง 30 คน เข้าพักค้างคืนที่นครย่างกุ้ง 1 คืนเพื่อจัดสัมภาระ ทั้งอาหารเพื่อการยังชีพ ยาและเวชภัณฑ์ สำหรับการปฏิบัติงานในพม่าเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้ ทางการพม่ายังเปลี่ยนจุดให้บริการเป็นเมืองเล็กๆ ใกล้จุดศูนย์พายุไซโคลนนาร์กีส คือ เมืองโมเมี๊ย และเมืองลาโปทา บริเวณปากแม่น้ำอิรวดี โดยรักษาผู้เจ็บป่วยในศูนย์พักพิงชั่วคราว (แคมป์) และโรงพยาบาลเล็กๆ ของพม่า
นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เดิมนั้นทางการพม่าได้แจ้งกับ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.ที่เดินทางไปหารือเตรียมการล่วงหน้าเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ว่า จะให้ทีมแพทย์บริการรักษาผู้เจ็บป่วยที่เมืองกงเชียงกอนและเมืองจ้าวตาล ซึ่งเดินทางด้วยรถยนต์เพียง 2 ชั่งโมง แต่พื้นที่ใหม่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 200 กม. เส้นทางคมนาคมยากลำบาก ต้องใช้เวลาเดินทาง 6 ชม. อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับเปลี่ยนจุดให้บริการผู้ประสบภัยใหม่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับทีมแพทย์ไทย เพราะทุกคนเตรียมตัว เตรียมใจรับมือกับความไม่แน่นอนอยู่แล้ว
“ได้รับแจ้งว่า ทั้ง 30 ชีวิตมีขวัญกำลังใจ จุดให้บริการรักษาพยาบาลที่พม่ากำหนดใหม่ ทีมแพทย์ไทยแบ่งออกเป็น 4 ทีม คืนนี้จะนอนเต็นท์ หรืออาจจะเป็นศาลาวัด เพราะจะถึงพื้นที่ช่วงค่ำๆ แต่ทุกคนมีสัมภาระเหมือนลูกเสือไปออกค่ายคือ ผู้หญิงก็มีผ้าถุงสำหรับอาบน้ำ มีเตาแก๊สสำหรับหุงข้าว มีอาหารกึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่มพร้อม มีถุงนอนเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียว ขอญาติพี่น้องและประชาชนชาวไทยไม่ต้องเป็นห่วง ทีมแพทย์พร้อมเป็นตัวแทนคนไทยนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปดูแลเพื่อนบ้านที่เดือดร้อน” นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ทีมแพทย์ได้รับการดูแลอย่างดีจากทางการพม่า และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศพม่า โดยมีการเปิดสายด่วนระหว่างเอกอัครราชทูตไทยประจำสหภาพพม่า และหน่วยแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง