สธ. หวั่นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนระบาดหนัก ผลิตเป็นอาวุธชีวภาพได้ด้วย “นพ.ประเสริฐ” เผยต้นเหตุโรคติดต่อระบาดจากสัตว์เลี้ยงสูงถึง 79% ความใกล้ชิดทำให้ละเลยการป้องกันโรค แถมคนพิเรนทร์เอาสัตว์ป่ามาเลี้ยง เสี่ยงติดเชื้อสูง เช่น ลิง ค้าวคาว แมลงสาป จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเจ้าภาพดูแลเรื่องสัตว์เลี้ยงทั้งใน และนำเข้า
วันนี้( 14 พ.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กล่าวในงานการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน (Zoonotic Disease Workshop : Human-Animal Interface)ว่า จากการสำรวจพบว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยจากโรคติดต่อที่ได้รับเชื้อมาจากสัตว์เลี้ยงมากที่สุด คือ ร้อยละ 79 ซึ่งมากกว่าโรคติดต่อที่มาจากสัตว์ป่า หรือสัตว์เศรษฐกิจ เช่น แพะ แกะ วัว โค เป็นต้น โดยมีสาเหตุมาจากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงมีความใกล้ชิดมาก ทำให้คนไม่ได้ระมัดระวังในการป้องกันโรคติดต่อที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นพาหนะได้ รวมถึงการนำสัตว์ป่ามาเลี้ยง เช่น อีกัวนา แมลงสาป ลิว ค้างคาว เป็นต้น โดยเฉพาะค้างคาวเป็นสัตว์ที่มีเชื้อโรคจำนวนมาก
โดยขณะนี้พบว่ามีเชื้อโรคที่สามารถติดจากสัตว์สู่คน และคนสู่สัตว์ได้มากถึง 136 ชนิด โดยโรคที่เคยมีการระบาด เช่น พิษสุนัขบ้า ไข้หวัดนก ซาร์ส เชื้ออีโบลา โรคฉี่หนู โรคแอนแทรกซ์ โรคติดเชื้อลิสสาไวรัสจากค้างคาว เป็นต้น
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่สุดคือ ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานที่รับเป็นเจ้าภาพดูแลรับผิดชอบสัตว์เลี้ยงโดยตรง ทั้งสัตว์ในประเทศ และสัตว์นำเข้าต่างๆ ที่สามารถแพร่เชื้อโรคต่างถิ่นในประเทศได้ และมีการลักลอบน้ำเข้าสัตว์ต่างถิ่นเข้มาในประเทศมากขึ้น ซึ่งสัตว์เหล่านี้ไม่ได้ผ่านด่านกักกันสัตว์ ไม่ผ่านการตรวจหาเชื้อโรค ทำให้ผู้ซื้อสามารถติดเชื้อโรคแปลกๆ ได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องเร่งหารือเพื่อหาเจ้าภาพรับผิดชอบเรื่องนี้โดยเร็ว รวมทั้งต้องเร่งผลักดันให้มีห้องปฏิบัติการชีวภาพ ระดับที่ 4 ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะขณะนี้ไทยยังไม่มี โดยนักวิจัยที่ทำงานในห้องปฏิบัติการ จะต้องสวมชุดสุญญากาศ คล้ายนักอวกาศ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือเชื้อโรคเล็ดรอดออกจากห้องปฏิบัติการได้
